มักเคยได้ยินแต่ว่าพวกผู้ชายเป็นเพศที่หวงแหนความโสดมากที่สุดเท่าชีวิตอยู่ฝ่ายเดียว แล้วผู้หญิงล่ะ ในใจลึกๆ เคยรู้สึกหวงบ้างมั้ยกับชีวิตโสดหัวเดียวกระเทียมลีบไร้คู่เคียงข้าง
หรือใช้คำว่า "กลัว" ชีวิตคู่เสียมากกว่า
และว่ากันว่าที่มันอยู่ในความกลัวลึกๆ คือผู้หญิงมักจะกลัวว่าเมื่อ "เลือก" ใครคนใดคนหนึ่งเป็นตัวจริงแล้วจะเสียโอกาสหากมีใครคนอื่นที่
"ดูดี" กว่าเข้ามาทีหลัง
อย่างนั้นหรอกหรือ??? ทั้งหมดทั้งมวลต้นเหตุแห่งความกลัวมันเกิดจากความไม่แน่ใจว่า "ผู้ชาย" คนนั้นเป็นคนที่ใช่สำหรับคุณแล้วหรือเปล่าต่างหากเล่า
ทาย ใจไขคำตอบสัปดาห์นี้มีคำถามของความรู้สึกดังต่อไปนี้ มาถามใจของคุณว่า คุณน่ะกลัวไหมหากจะต้องผูกมัดและยอมรับความรู้สึกตัวเองอย่างไม่ต้องกั๊กอีกต่อไป
- หลังจากที่ความสัมพันธ์ในช่วงแห่งความหวานที่สุดในตอนเริ่มคบกันผ่านไปแล้ว แล้วคุณก็รู้สึกว่าทั้งหมดที่เหลือในช่วงเวลาหลังจากนั้นล้วนแต่น่าเบื่อๆ
- คุณได้ทำความรู้จักหรือมักจะรู้สึกแปลกๆ กับชายไม่โสด หัวใจไม่ว่าง บ้างถูกจับจอง หรือมีพันธะทางใจแล้วบ้างหรือเปล่า
- คุณมีสเปกชายในฝันร่ายยาวเป็นหางว่าวอย่างละเอียดถี่ยิบเลยหรือเปล่า
- คุณสังเกตว่าชีวิตผู้คนรอบข้างของเพื่อนฝูง พี่น้อง ที่แต่งงานไปแล้วนั้น ช่างน่าเบื่อหน่ายจริงๆ เลยนะ
- แต่ไหนแต่ไร ไปไหนไม่เคยทำตัวเฟรนด์ลี่ แต่ช่วงนี้รู้สึกแปลก ต่อมมิตรภาพเริ่มแตก ไปไหนก็พยายามที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพ หวังผลภายภาคหน้าว่าอาจมีใครคนนั้นหลงเข้ามาผ่านช่องทางนี้
- อย่าโกหกตัวเอง! คุณน่ะเรตติ้งดีชะมัด แถมรักเผื่อเลือก เพราะตอนนี้รักสลับรางไปมาอยู่หลายขบวน เอ๊ย หลายคน
- อดีตรักเมื่อวันวานที่จบลง กว่าคุณจะผ่านพ้นและลืมมันมาได้ เลือดตาแทบกระเด็น
ตอบ คำถามข้างบนตามตรงเท่าที่คุณรู้สึก หาก "ใช่" เกินครึ่งเข้าไปแล้ว นั่นหมายความว่าคุณเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่จัดอยู่ใน "ฤดูร้อน" เพราะคุณแอบกลัวฝนอยู่ในใจลึกๆ แต่บางวันก็ตื้นจนปิดอาการไว้ไม่มิด
ถึงเวลาแล้วที่ต้องขจัดความกลัวออกไป เผชิญหน้ากับความจริง ปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ รักเมื่อรู้สึกรัก และเมื่อไม่รักก็ไม่ต้องฝืนทน มีแนวคิดขจัดความกลัวมาฝากไว้ในใจคุณด้วย
1. ยอมรับความไม่แน่นอนของชีวิต
เรื่อง "กลัว" ความไม่แน่นอนเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็ว่าได้ และเป็นอาการวิตกจริตอย่างหนึ่งของบรรดาสาวขี้กลัว (ฝน) ยาม ที่แค่รู้สึกตงิดๆ ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณแล้วหรือเปล่า เขาเรียกกลัวเกินเหตุ อย่าลืมว่าความกลัวเป็นกำแพงอันใหญ่ที่จะปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างไม่ให้เราได้เห็นอะไรดีๆ เลย อาจจะเกิดเจ้าความไม่แน่ใจแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่มันจะมามีอิทธิพลกับข้อดีของเขาที่คุณมั่นใจไป 80 เปอร์เซ็นต์ได้หรือ ลองตรองดู เพราะในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่เราจะมั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มสักอย่างเดียวหรอก
2. ออกตัวไปข้างหน้า
แม้ความกลัวจะเกาะกินแต่ชีวิตก็ต้องก้าวเดินต่อไป ในชีวิตหนึ่งคุณอยากเอาชนะความกลัวที่อยู่ในใจคุณมั้ยเล่า หรืออยากแอบซ่อนตัวอยู่อย่างนี้ไปตลอด ไม่ลองเปิดโอกาสให้โลกใบนี้ได้รู้บ้างเล่าว่า คุณน่ะพร้อมที่จะเป็นคนรักที่ดีได้คนหนึ่ง และความรักนั้นควรแจกจ่าย ไม่ใช่เก็บกั๊กไว้ คุณไม่ใช่อ่างเก็บน้ำ ว่ากันว่า หนทางที่จะเอาชนะความกลัวการผูกมัดได้ดีที่สุดวิธีหนึ่ง คือการเอาตัวเข้าไปผูกมัดซะ หนามยอกเอาหนามบ่งนั่นไง และเติมความรอบคอบใส่เข้าไปในชีวิต คิดตรึกตรองทุกอย่างให้ดีถี่ถ้วน อย่างไม่ต้องไปประหยัดมัน
3. เลิกกังวลถึงอนาคต
ความกลัว บางครั้งก็เกิดจากการนั่งจินตนาการอยู่กับที่ 5 ปี 10 ปี 15 ปี ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ทั้งที่เข็มนาฬิกาที่อยู่ตรงหน้ากำลังบอกเวลาปัจจุบัน คุณมัวแต่นั่งฝันนั่งนึกถึงวันข้างหน้าด้วยความกลัวต่างๆ นานา ถามตัวเองอยู่นั่นจะรับได้หรือหากเกิดอะไรขึ้นต่อไป คำตอบคือไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตรักของคุณบ้าง มีแต่คุณและคนนั้นของคุณที่รออยู่รู้ดี คุณต้องยอมรับความจริงของโลกข้อหนึ่งว่า ไม่มีเวทมนตร์มหัศจรรย์ใดๆ ในโลกนี้ที่จะมาการันตีชีวิตรักของคุณได้ แล้วอย่างนี้จะต้องกลัวอะไรอีก ทางเดินแห่งรักยังต้องเรียนรู้กันไปอีกยาวไกลนัก
4. อย่าจู้จี้จุกจิก
แน่นอนมันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของผู้หญิงเราเรื่องหนึ่ง การจะรับรักหรือให้ความรักใครสักคน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแต่งงานมีครอบครัว ทว่าอยากให้เปิดมุมมองแบบโปร่งโล่งสบาย ไม่จำกัดขอบเขตเงื่อนไข จู้จี้จุกจิกตามสไตล์สาวช่างเลือก เพราะเขาเป็นคนไม่ใช่รองเท้า เพราะฉะนั้น จะสมบูรณ์แบบดั่งใจฝันมันเป็นไปไม่ได้ มองหาแง่ดีของคนๆ นั้น ให้มากกว่ามองแง่ร้ายของเขาสักเท่าตัวหนึ่งประกอบการตัดสินใจ ผลลัพธ์เป็นเช่นไรก็ช่าง แต่คุณเดินทางสายกลางดีที่สุดแล้ว
ความรักไม่ต้องกลัว แต่ถ้าไม่ได้รักหรือไม่ได้ถูกรัก นั่นน่ากลัวกว่าเยอะ!!!
อย่างนั้นหรอกหรือ??? ทั้งหมดทั้งมวลต้นเหตุแห่งความกลัวมันเกิดจากความไม่แน่ใจว่า "ผู้ชาย" คนนั้นเป็นคนที่ใช่สำหรับคุณแล้วหรือเปล่าต่างหากเล่า
ทาย ใจไขคำตอบสัปดาห์นี้มีคำถามของความรู้สึกดังต่อไปนี้ มาถามใจของคุณว่า คุณน่ะกลัวไหมหากจะต้องผูกมัดและยอมรับความรู้สึกตัวเองอย่างไม่ต้องกั๊กอีกต่อไป
- หลังจากที่ความสัมพันธ์ในช่วงแห่งความหวานที่สุดในตอนเริ่มคบกันผ่านไปแล้ว แล้วคุณก็รู้สึกว่าทั้งหมดที่เหลือในช่วงเวลาหลังจากนั้นล้วนแต่น่าเบื่อๆ
- คุณได้ทำความรู้จักหรือมักจะรู้สึกแปลกๆ กับชายไม่โสด หัวใจไม่ว่าง บ้างถูกจับจอง หรือมีพันธะทางใจแล้วบ้างหรือเปล่า
- คุณมีสเปกชายในฝันร่ายยาวเป็นหางว่าวอย่างละเอียดถี่ยิบเลยหรือเปล่า
- คุณสังเกตว่าชีวิตผู้คนรอบข้างของเพื่อนฝูง พี่น้อง ที่แต่งงานไปแล้วนั้น ช่างน่าเบื่อหน่ายจริงๆ เลยนะ
- แต่ไหนแต่ไร ไปไหนไม่เคยทำตัวเฟรนด์ลี่ แต่ช่วงนี้รู้สึกแปลก ต่อมมิตรภาพเริ่มแตก ไปไหนก็พยายามที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพ หวังผลภายภาคหน้าว่าอาจมีใครคนนั้นหลงเข้ามาผ่านช่องทางนี้
- อย่าโกหกตัวเอง! คุณน่ะเรตติ้งดีชะมัด แถมรักเผื่อเลือก เพราะตอนนี้รักสลับรางไปมาอยู่หลายขบวน เอ๊ย หลายคน
- อดีตรักเมื่อวันวานที่จบลง กว่าคุณจะผ่านพ้นและลืมมันมาได้ เลือดตาแทบกระเด็น
ตอบ คำถามข้างบนตามตรงเท่าที่คุณรู้สึก หาก "ใช่" เกินครึ่งเข้าไปแล้ว นั่นหมายความว่าคุณเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่จัดอยู่ใน "ฤดูร้อน" เพราะคุณแอบกลัวฝนอยู่ในใจลึกๆ แต่บางวันก็ตื้นจนปิดอาการไว้ไม่มิด
ถึงเวลาแล้วที่ต้องขจัดความกลัวออกไป เผชิญหน้ากับความจริง ปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ รักเมื่อรู้สึกรัก และเมื่อไม่รักก็ไม่ต้องฝืนทน มีแนวคิดขจัดความกลัวมาฝากไว้ในใจคุณด้วย
1. ยอมรับความไม่แน่นอนของชีวิต
เรื่อง "กลัว" ความไม่แน่นอนเป็นความผิดพลาดร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นก็ว่าได้ และเป็นอาการวิตกจริตอย่างหนึ่งของบรรดาสาวขี้กลัว (ฝน) ยาม ที่แค่รู้สึกตงิดๆ ว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของคุณแล้วหรือเปล่า เขาเรียกกลัวเกินเหตุ อย่าลืมว่าความกลัวเป็นกำแพงอันใหญ่ที่จะปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างไม่ให้เราได้เห็นอะไรดีๆ เลย อาจจะเกิดเจ้าความไม่แน่ใจแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ แต่มันจะมามีอิทธิพลกับข้อดีของเขาที่คุณมั่นใจไป 80 เปอร์เซ็นต์ได้หรือ ลองตรองดู เพราะในโลกนี้ก็ไม่มีอะไรที่เราจะมั่นใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์เต็มสักอย่างเดียวหรอก
2. ออกตัวไปข้างหน้า
แม้ความกลัวจะเกาะกินแต่ชีวิตก็ต้องก้าวเดินต่อไป ในชีวิตหนึ่งคุณอยากเอาชนะความกลัวที่อยู่ในใจคุณมั้ยเล่า หรืออยากแอบซ่อนตัวอยู่อย่างนี้ไปตลอด ไม่ลองเปิดโอกาสให้โลกใบนี้ได้รู้บ้างเล่าว่า คุณน่ะพร้อมที่จะเป็นคนรักที่ดีได้คนหนึ่ง และความรักนั้นควรแจกจ่าย ไม่ใช่เก็บกั๊กไว้ คุณไม่ใช่อ่างเก็บน้ำ ว่ากันว่า หนทางที่จะเอาชนะความกลัวการผูกมัดได้ดีที่สุดวิธีหนึ่ง คือการเอาตัวเข้าไปผูกมัดซะ หนามยอกเอาหนามบ่งนั่นไง และเติมความรอบคอบใส่เข้าไปในชีวิต คิดตรึกตรองทุกอย่างให้ดีถี่ถ้วน อย่างไม่ต้องไปประหยัดมัน
3. เลิกกังวลถึงอนาคต
ความกลัว บางครั้งก็เกิดจากการนั่งจินตนาการอยู่กับที่ 5 ปี 10 ปี 15 ปี ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ทั้งที่เข็มนาฬิกาที่อยู่ตรงหน้ากำลังบอกเวลาปัจจุบัน คุณมัวแต่นั่งฝันนั่งนึกถึงวันข้างหน้าด้วยความกลัวต่างๆ นานา ถามตัวเองอยู่นั่นจะรับได้หรือหากเกิดอะไรขึ้นต่อไป คำตอบคือไม่มีใครรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตรักของคุณบ้าง มีแต่คุณและคนนั้นของคุณที่รออยู่รู้ดี คุณต้องยอมรับความจริงของโลกข้อหนึ่งว่า ไม่มีเวทมนตร์มหัศจรรย์ใดๆ ในโลกนี้ที่จะมาการันตีชีวิตรักของคุณได้ แล้วอย่างนี้จะต้องกลัวอะไรอีก ทางเดินแห่งรักยังต้องเรียนรู้กันไปอีกยาวไกลนัก
4. อย่าจู้จี้จุกจิก
แน่นอนมันเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตของผู้หญิงเราเรื่องหนึ่ง การจะรับรักหรือให้ความรักใครสักคน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการแต่งงานมีครอบครัว ทว่าอยากให้เปิดมุมมองแบบโปร่งโล่งสบาย ไม่จำกัดขอบเขตเงื่อนไข จู้จี้จุกจิกตามสไตล์สาวช่างเลือก เพราะเขาเป็นคนไม่ใช่รองเท้า เพราะฉะนั้น จะสมบูรณ์แบบดั่งใจฝันมันเป็นไปไม่ได้ มองหาแง่ดีของคนๆ นั้น ให้มากกว่ามองแง่ร้ายของเขาสักเท่าตัวหนึ่งประกอบการตัดสินใจ ผลลัพธ์เป็นเช่นไรก็ช่าง แต่คุณเดินทางสายกลางดีที่สุดแล้ว
ความรักไม่ต้องกลัว แต่ถ้าไม่ได้รักหรือไม่ได้ถูกรัก นั่นน่ากลัวกว่าเยอะ!!!
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment