หลายต่อหลายครั้งที่ความรักมักจะจบลงก่อนที่ระมัดระวังและหาทางป้องกันไม่
ให้เรื่องเกิดขึ้น ฉะนั้น อาจจะดีกว่าหากคุณรู้ตัวตั้งแต่วินาทีที่คนรักเปลี่ยนไป ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็ตาม
เพื่อจะได้ระมัดระวังตัว พร้อมกับรีบแก้ปัญหาที่เป็นต้นเหตุทำให้ความรักของพวกคุณแย่ลง
หรือก่อนความรักใกล้จะจบ และปัญหาเหล่านั้นก็กลายมาเป็นจุดแตกหักของความสัมพันธ์
1. ขัดแย้งกันบ่อยมากกว่าเดิม
ความขัดแย้งถือเป็นเรื่องธรรมดาของทุกคู่รัก เพราะต่างคนต่างก็อยากหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับปัญหา ในขณะเดียวกันก็เป็นทางออกที่ใกล้เคียงกับความต้องการของแต่ละฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคู่รักที่ขัดแย้งและถกเถียงกันบ่อย มากกว่าพูดจาดี ๆ ก็แสดงว่าความสนุกสนานระหว่างคุณกับคนรักอาจจะกำลังหายไป และแทนที่ด้วยความน่าสะพรึงกลัว
2. แสดงอารมณ์รุนแรงออกมาบ่อยครั้ง
บ่อยครั้งเมื่อคนเราสับสนต่างก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะพูดเสียงดังและหยาบคายไป บ้าง แต่สุดท้ายแล้วหากความรักยังไม่เปลี่ยน ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมในไม่ช้า ตรงกันข้ามหากดูเหมือนว่าคนรักจะนอยด์กับทุกสิ่งที่คุณทำ และสามารถตำหนิคุณได้ทุกเรื่อง ก็เป็นไปได้ว่าเขากำลังแสดงบางอย่างให้รู้ว่าความสัมพันธ์มันไม่เวิร์กเสีย แล้ว
3. ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา
เป็นเรื่องที่ไม่สามารถวางเฉยหรือมองข้ามไปได้เลย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะการใช้ความรุนแรงเป็นความอันตรายอย่างหนึ่งที่ไม่ควรปล่อยให้เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และหากความสัมพันธ์มันแย่จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกันแบบนี้ อยู่คนเดียวน่าจะดีที่สุด
4. สนใจกันน้อยลง
เมื่อมีใครสักคนให้ความสนใจในตัวคุณ พวกเขาก็พร้อมจะฟังทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับชีวิตของคุณ โดยเฉพาะเมื่อคุณโกรธหรือเป็นทุกข์ ในทางกลับกันหากคนรักดูเหมือนสนใจคุณน้อยลง ถึงแม้ว่าในช่วงเวลานั้นคุณจะต้องการใครสักคนคอยรับฟังเรื่องราวของตัวเองก็ ตาม ก็อาจเป็นไปได้ว่าคนรักของคุณอาจจะกำลังทบทวนความสัมพันธ์ด้วยตัวเองและมัน ก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
5. ให้ความสนใจอย่างอื่นมากกว่า
เมื่ออีกคนหมดความสนใจในกันและกัน พวกเขาก็มักจะมองหาสิ่งที่น่าสนใจกว่าที่อยู่นอกเหนือความสัมพันธ์ ซึ่งวิธีหนึ่งที่พวกเขาทำ ก็คือ ใช้เวลาไปกับอย่างอื่นมากกว่าคนรักของตัวเอง ซึ่งถ้าหากคนรักกำลังทำกับคุณเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขากำลังเริ่มสนุกอยู่กับสิ่งรอบตัวมากกว่าคุณ โดยสิ่งเหล่านั้นก็จะดึงดูดความสนใจ และทำให้เขาห่างออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหายหน้าไปในที่สุด
6. พยายามหลบหน้าหลบตา
การหลบน้าหลบตาเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายหมดความสนใจ และถ้าคนรักต้องการให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น ก็จะไม่มีวันวางเฉยกับปัญหานี้ได้เลยอีกทั้งตัวเขาเองก็จะพยายามแก้ปัญหาใน จุดนี้ ดังนั้น หากคุณเห็นว่าคนรักหลบหน้าหลบตาหลังจากที่มีปัญหากัน ก็พอจะบอกได้แล้วว่าคนรักไม่ได้ใส่ใจอีกแล้วว่าความสัมพันธ์จะเป็นเช่นไร
7. ขาดความโรแมนติก
ความโรแมนติกทำให้ความรักมีชีวิตชีวาและสวยงาม อีกทั้งทำให้คนรักกันรู้สึกดีตามไปด้วย แต่หากก่อนหน้านี้คนรักก็เคยทำแบบนี้ให้บ่อย ๆ แต่ตอนนี้กลับน้อยลงควรระวังเอาไว้ เพราะนี่เป็นสัญญาณเตือนว่าความรู้สึกของคนรักไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างเช่น หากเขาเคยบอกรักคุณบ่อย ๆ แตกต่างจากพักหลังมานี้ที่ดูเหมือนว่าเขาจะพูดน้อยลง ก็อาจหมายความว่าเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้วก็ได้
8. พบท่าทางมีพิรุธบ่อยครั้ง
ถ้าคนรักเริ่มพูดคุยกันคนอื่นในเชิงชู้สาว ถือเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้ามไปอย่างยิ่ง เพราะความเชื่อใจและความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ ซึ่งถ้าหากคนรักขาดคุณสมบัติทั้ง 2 เรื่องนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าคนรักไม่คู่ควรกับความรักที่คุณมอบให้อีกต่อไป
9. อนาคตของเขาไม่เคยมีคุณอยู่ในนั้น
ถือเป็นสัญญาณที่สำคัญอย่างยิ่ง ถ้าคนรักเริ่มวางแผนชีวิตในระยะยาวโดยไม่มีคุณ มันก็เป็นไปได้ว่าคนรักไม่แน่ใจว่า ทั้งคุณและเขาจะมีอนาคตร่วมกันหรือไม่ ซึ่งหากมองลงไปลึก ๆ ก็หมายความว่า คนรักยังไม่ได้มองภาพที่เกี่ยวกับความมั่นคงในอนาคตกับคุณ ดังนั้น คุณควรระมัดระวังตัวให้มาก ๆ เพราะมันความสัมพันธ์จะต้องจบลงในวันใดวันหนึ่งแน่นอน
ไม่มีความสัมพันธ์ใดที่จะราบรื่นเหมือนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต่างก็ต้องมีอุปสรรคแวะเวียนเข้ามาทักทายให้เหนื่อยใจกันบ้างเป็นครั้ง คราว แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่าคนรักกำลังทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากทั้ง 9 เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด ให้ระมัดระวังเอาไว้เพราะมันอาจนำไปสู่บาดแผลกับความเจ็บปวดที่ยากจะเยียวยา ได้ ดังนั้น มันจึงดีกว่าหากคุณรู้ตัวและรีบลงมือแก้ไขปัญหาก่อนที่ความรักจะพัง
1. ขัดแย้งกันบ่อยมากกว่าเดิม
ความขัดแย้งถือเป็นเรื่องธรรมดาของทุกคู่รัก เพราะต่างคนต่างก็อยากหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับปัญหา ในขณะเดียวกันก็เป็นทางออกที่ใกล้เคียงกับความต้องการของแต่ละฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามสำหรับคู่รักที่ขัดแย้งและถกเถียงกันบ่อย มากกว่าพูดจาดี ๆ ก็แสดงว่าความสนุกสนานระหว่างคุณกับคนรักอาจจะกำลังหายไป และแทนที่ด้วยความน่าสะพรึงกลัว
2. แสดงอารมณ์รุนแรงออกมาบ่อยครั้ง
บ่อยครั้งเมื่อคนเราสับสนต่างก็เป็นไปได้ที่พวกเขาจะพูดเสียงดังและหยาบคายไป บ้าง แต่สุดท้ายแล้วหากความรักยังไม่เปลี่ยน ก็จะกลับเป็นเหมือนเดิมในไม่ช้า ตรงกันข้ามหากดูเหมือนว่าคนรักจะนอยด์กับทุกสิ่งที่คุณทำ และสามารถตำหนิคุณได้ทุกเรื่อง ก็เป็นไปได้ว่าเขากำลังแสดงบางอย่างให้รู้ว่าความสัมพันธ์มันไม่เวิร์กเสีย แล้ว
3. ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา
เป็นเรื่องที่ไม่สามารถวางเฉยหรือมองข้ามไปได้เลย ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะการใช้ความรุนแรงเป็นความอันตรายอย่างหนึ่งที่ไม่ควรปล่อยให้เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และหากความสัมพันธ์มันแย่จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกันแบบนี้ อยู่คนเดียวน่าจะดีที่สุด
4. สนใจกันน้อยลง
เมื่อมีใครสักคนให้ความสนใจในตัวคุณ พวกเขาก็พร้อมจะฟังทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับชีวิตของคุณ โดยเฉพาะเมื่อคุณโกรธหรือเป็นทุกข์ ในทางกลับกันหากคนรักดูเหมือนสนใจคุณน้อยลง ถึงแม้ว่าในช่วงเวลานั้นคุณจะต้องการใครสักคนคอยรับฟังเรื่องราวของตัวเองก็ ตาม ก็อาจเป็นไปได้ว่าคนรักของคุณอาจจะกำลังทบทวนความสัมพันธ์ด้วยตัวเองและมัน ก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
5. ให้ความสนใจอย่างอื่นมากกว่า
เมื่ออีกคนหมดความสนใจในกันและกัน พวกเขาก็มักจะมองหาสิ่งที่น่าสนใจกว่าที่อยู่นอกเหนือความสัมพันธ์ ซึ่งวิธีหนึ่งที่พวกเขาทำ ก็คือ ใช้เวลาไปกับอย่างอื่นมากกว่าคนรักของตัวเอง ซึ่งถ้าหากคนรักกำลังทำกับคุณเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่าเขากำลังเริ่มสนุกอยู่กับสิ่งรอบตัวมากกว่าคุณ โดยสิ่งเหล่านั้นก็จะดึงดูดความสนใจ และทำให้เขาห่างออกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหายหน้าไปในที่สุด
6. พยายามหลบหน้าหลบตา
การหลบน้าหลบตาเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายหมดความสนใจ และถ้าคนรักต้องการให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น ก็จะไม่มีวันวางเฉยกับปัญหานี้ได้เลยอีกทั้งตัวเขาเองก็จะพยายามแก้ปัญหาใน จุดนี้ ดังนั้น หากคุณเห็นว่าคนรักหลบหน้าหลบตาหลังจากที่มีปัญหากัน ก็พอจะบอกได้แล้วว่าคนรักไม่ได้ใส่ใจอีกแล้วว่าความสัมพันธ์จะเป็นเช่นไร
7. ขาดความโรแมนติก
ความโรแมนติกทำให้ความรักมีชีวิตชีวาและสวยงาม อีกทั้งทำให้คนรักกันรู้สึกดีตามไปด้วย แต่หากก่อนหน้านี้คนรักก็เคยทำแบบนี้ให้บ่อย ๆ แต่ตอนนี้กลับน้อยลงควรระวังเอาไว้ เพราะนี่เป็นสัญญาณเตือนว่าความรู้สึกของคนรักไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างเช่น หากเขาเคยบอกรักคุณบ่อย ๆ แตกต่างจากพักหลังมานี้ที่ดูเหมือนว่าเขาจะพูดน้อยลง ก็อาจหมายความว่าเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้วก็ได้
8. พบท่าทางมีพิรุธบ่อยครั้ง
ถ้าคนรักเริ่มพูดคุยกันคนอื่นในเชิงชู้สาว ถือเป็นเรื่องที่คุณไม่ควรมองข้ามไปอย่างยิ่ง เพราะความเชื่อใจและความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานสำคัญของความสัมพันธ์ ซึ่งถ้าหากคนรักขาดคุณสมบัติทั้ง 2 เรื่องนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าคนรักไม่คู่ควรกับความรักที่คุณมอบให้อีกต่อไป
9. อนาคตของเขาไม่เคยมีคุณอยู่ในนั้น
ถือเป็นสัญญาณที่สำคัญอย่างยิ่ง ถ้าคนรักเริ่มวางแผนชีวิตในระยะยาวโดยไม่มีคุณ มันก็เป็นไปได้ว่าคนรักไม่แน่ใจว่า ทั้งคุณและเขาจะมีอนาคตร่วมกันหรือไม่ ซึ่งหากมองลงไปลึก ๆ ก็หมายความว่า คนรักยังไม่ได้มองภาพที่เกี่ยวกับความมั่นคงในอนาคตกับคุณ ดังนั้น คุณควรระมัดระวังตัวให้มาก ๆ เพราะมันความสัมพันธ์จะต้องจบลงในวันใดวันหนึ่งแน่นอน
ไม่มีความสัมพันธ์ใดที่จะราบรื่นเหมือนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะต่างก็ต้องมีอุปสรรคแวะเวียนเข้ามาทักทายให้เหนื่อยใจกันบ้างเป็นครั้ง คราว แต่อย่างไรก็ตามหากพบว่าคนรักกำลังทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากทั้ง 9 เรื่องที่กล่าวมาทั้งหมด ให้ระมัดระวังเอาไว้เพราะมันอาจนำไปสู่บาดแผลกับความเจ็บปวดที่ยากจะเยียวยา ได้ ดังนั้น มันจึงดีกว่าหากคุณรู้ตัวและรีบลงมือแก้ไขปัญหาก่อนที่ความรักจะพัง
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment