"อกหัก" น่าจะเป็นสถานการณ์หนึ่งที่ใคร
ๆ ก็คงต้องพานพบเจอ อย่างน้อยก็สักครั้งในชีวิต (หากไม่เคยเจอเลยนั่นแสดงว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมาก
ๆ หรือไม่ก็.. คุณยังไม่เคยรู้จักความรักเลยสักครั้ง)
แต่เอาน่า อกหักก็ดีกว่ารักไม่เป็นนี่นะ เพื่อผ่านพ้นช่วงเวลาซึมเศร้าหม่นหมองนี้มาให้ได้
ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการรับมือกับความคิดฟุ้งซ่าน ความโดดเดี่ยวเปลี่ยนเหงาจนปวดใจนี้ต่างกันไป แต่ก็ยังมีวิธีที่หลาย ๆ คนที่สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาระยะทำใจนี้มาได้บอกว่ามัน "เวิร์ค" และช่วยให้หายฟุ้งซ่านได้จริง ๆ จะมีอะไรบ้าง คนช้ำรักอย่างเรามาดูกันดีกว่า ... T_T
1. อยู่กับคนที่รักคุณ
ถึงใครคนนั้นจะไม่รับความรักที่คุณมอบให้ แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ยังมีคนที่รักคุณอยู่รอบ ๆ กาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เวลาเห็นคุณรู้สึกดาวน์แบบนี้ ขอให้เชื่อเถอะว่าเขาก็อยากจะทำให้คุณรู้สึกดี อยากจะอยู่ใกล้ ๆ คอยปลอบใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าอยากระบาย อยากคุยกับใครสักคน อย่าลังเลใจที่จะให้คนที่รักคุณเข้ามาแชร์ความรู้สึกเจ็บปวดของคุณไปบ้าง เถอะนะ
2. อย่าปล่อยให้หัวว่าง
ช่วงเวลาหลังอกหักนี่แหละที่เรามักจะจมจ่อมอยู่กับเรื่องราวเดิม ๆ อะไรเดิม ๆ ก็พากันผุดเป็นภาพเก่า ๆ ขึ้นมาให้เห็นเป็นฉาก ๆ หลีกหนีจากความคิดฟุ้งซ่านเหล่านี้ อยู่กับอดีตให้น้อยลง และใส่ใจเรื่องที่กำลังทำอยู่ให้มากขึ้น ลองทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ทำอาหาร เลี้ยงสัตว์ จัดห้องใหม่ ฯลฯ หาเรื่องที่จะดึงความคิดคำนึงของคุณให้เบนออกไปจากความผิดหวัง พยายามทำให้ได้โดยเฉพาะช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์แรก ๆ ซึ่งนับเป็นระยะทำใจที่สำคัญ
3. ออกเที่ยวเปิดโลกกว้าง
หลายครั้งที่การอกหักกลายเป็นแรงผลักดันให้เราได้ก้าวออกไปพบอะไรใหม่ ๆ เราไม่ได้บอกให้คุณหนีปัญหา แต่แค่อยากให้คุณได้ลองเปลี่ยนสภาพบรรยากาศรอบตัวดูบ้าง ลองออกไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างจังหวัด ท่องเที่ยวต่างถิ่น ไปในที่ ๆ อยากจะไปแต่ยังไม่มีโอกาส เปิดใจรับเรื่องราวและประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้วเมื่อทริปพักใจจบลง คุณก็จะมองเห็นโลกในแง่ใหม่ว่ามันยังสดใส ไม่ได้
ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการรับมือกับความคิดฟุ้งซ่าน ความโดดเดี่ยวเปลี่ยนเหงาจนปวดใจนี้ต่างกันไป แต่ก็ยังมีวิธีที่หลาย ๆ คนที่สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาระยะทำใจนี้มาได้บอกว่ามัน "เวิร์ค" และช่วยให้หายฟุ้งซ่านได้จริง ๆ จะมีอะไรบ้าง คนช้ำรักอย่างเรามาดูกันดีกว่า ... T_T
1. อยู่กับคนที่รักคุณ
ถึงใครคนนั้นจะไม่รับความรักที่คุณมอบให้ แต่ไม่ว่ายังไงคุณก็ยังมีคนที่รักคุณอยู่รอบ ๆ กาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนฝูง เวลาเห็นคุณรู้สึกดาวน์แบบนี้ ขอให้เชื่อเถอะว่าเขาก็อยากจะทำให้คุณรู้สึกดี อยากจะอยู่ใกล้ ๆ คอยปลอบใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าอยากระบาย อยากคุยกับใครสักคน อย่าลังเลใจที่จะให้คนที่รักคุณเข้ามาแชร์ความรู้สึกเจ็บปวดของคุณไปบ้าง เถอะนะ
2. อย่าปล่อยให้หัวว่าง
ช่วงเวลาหลังอกหักนี่แหละที่เรามักจะจมจ่อมอยู่กับเรื่องราวเดิม ๆ อะไรเดิม ๆ ก็พากันผุดเป็นภาพเก่า ๆ ขึ้นมาให้เห็นเป็นฉาก ๆ หลีกหนีจากความคิดฟุ้งซ่านเหล่านี้ อยู่กับอดีตให้น้อยลง และใส่ใจเรื่องที่กำลังทำอยู่ให้มากขึ้น ลองทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ ไม่ว่าจะอ่านหนังสือ ทำอาหาร เลี้ยงสัตว์ จัดห้องใหม่ ฯลฯ หาเรื่องที่จะดึงความคิดคำนึงของคุณให้เบนออกไปจากความผิดหวัง พยายามทำให้ได้โดยเฉพาะช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์แรก ๆ ซึ่งนับเป็นระยะทำใจที่สำคัญ
3. ออกเที่ยวเปิดโลกกว้าง
หลายครั้งที่การอกหักกลายเป็นแรงผลักดันให้เราได้ก้าวออกไปพบอะไรใหม่ ๆ เราไม่ได้บอกให้คุณหนีปัญหา แต่แค่อยากให้คุณได้ลองเปลี่ยนสภาพบรรยากาศรอบตัวดูบ้าง ลองออกไปเยี่ยมเพื่อนที่ต่างจังหวัด ท่องเที่ยวต่างถิ่น ไปในที่ ๆ อยากจะไปแต่ยังไม่มีโอกาส เปิดใจรับเรื่องราวและประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้วเมื่อทริปพักใจจบลง คุณก็จะมองเห็นโลกในแง่ใหม่ว่ามันยังสดใส ไม่ได้
อึมครึมหม่นหมองอย่างที่เคยรู้สึก
4. เรียนรู้ที่จะอยู่เพียงลำพัง
นี่อาจเป็นคำแนะนำที่ฟังดูหดหู่ไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความให้คุณอยู่โดดเดี่ยวลำพังไปตลอดชีวิตหรอกนะ แค่อยากให้ลองคิดดูว่า ใช่ว่าเราจะมีความสุขไม่ได้หากไม่มีคนคู่กายคู่ใจ บ่อยเหลือเกินที่ความรู้สึกกลัวการอยู่ตัวคนเดียว ทำให้ช่วงเวลาอกหักดูยิ่งย่ำแย่และหนักหนาเกินกว่าแค่เรื่องปัญหาหัวใจ ลองออกไปกินข้าวคนเดียวบ้าง ดูหนังคนเดียวดูบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองอย่างมีความสุข แล้วคุณจะรู้ว่าอยู่ตัวคนเดียวก็ไม่ได้แย่มากมายขนาดนั้นหรอก
5. ปรนเปรอตัวเองบ้าง
เวลาเศร้า ๆ ซึม ๆ เป็นการดีที่จะได้ปลอบประโลมตัวเอง ด้วยการทำอะไรตามใจต้องการ อย่าปล่อยให้ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับความเศร้าซึม อะไรก็ตามที่คุณคิดว่าทำแล้วจะรู้สึกดีขึ้นก็ลงมือทำเสีย ถือว่าเป็นการชดเชยจิตใจที่บอบช้ำ มันจะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง
6. หาวิธีระบายออก
หนึ่งในการบรรเทาความอัดอั้นตันใจ ที่เสียดแทงอยู่ภายในให้ทุเลาลงได้ คือ การหาทางระบายออก ไม่ว่าจะป็นการเขียนไดอะรี่ เขียนบล็อก คุยกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว ไม่ว่าจะโดยวิธีใด การได้ระบายเรื่องราวที่รู้สึกอยู่ในใจอกไปได้ จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น บางทีคุณอาจจะได้คำแนะนำดี ๆ กลับมาด้วยล่ะ
ถึงจะเจ็บแต่ก็ถือซะว่ามันก็เป็นประสบการณ์ ที่สอนให้เราเรียนรู้อีกด้านหนึ่งของความรัก อย่างน้อยก่อนจะเจ็บเราก็เคยได้รับความสุขจากมันมาแล้วครั้งหนึ่ง.. และแม้รักจะจบลงไปแล้ว แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป อยู่ที่คุณจะเรียนรู้ว่าจะอยู่กับมันอย่างไรนั่นเอง ขอให้ฟ้าหลังฝนกลายเป็นวันที่สดใสสำหรับคุณในไม่ช้านะคะ :)
4. เรียนรู้ที่จะอยู่เพียงลำพัง
นี่อาจเป็นคำแนะนำที่ฟังดูหดหู่ไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ได้หมายความให้คุณอยู่โดดเดี่ยวลำพังไปตลอดชีวิตหรอกนะ แค่อยากให้ลองคิดดูว่า ใช่ว่าเราจะมีความสุขไม่ได้หากไม่มีคนคู่กายคู่ใจ บ่อยเหลือเกินที่ความรู้สึกกลัวการอยู่ตัวคนเดียว ทำให้ช่วงเวลาอกหักดูยิ่งย่ำแย่และหนักหนาเกินกว่าแค่เรื่องปัญหาหัวใจ ลองออกไปกินข้าวคนเดียวบ้าง ดูหนังคนเดียวดูบ้าง เรียนรู้ที่จะอยู่กับตัวเองอย่างมีความสุข แล้วคุณจะรู้ว่าอยู่ตัวคนเดียวก็ไม่ได้แย่มากมายขนาดนั้นหรอก
5. ปรนเปรอตัวเองบ้าง
เวลาเศร้า ๆ ซึม ๆ เป็นการดีที่จะได้ปลอบประโลมตัวเอง ด้วยการทำอะไรตามใจต้องการ อย่าปล่อยให้ตัวเองหมกมุ่นอยู่กับความเศร้าซึม อะไรก็ตามที่คุณคิดว่าทำแล้วจะรู้สึกดีขึ้นก็ลงมือทำเสีย ถือว่าเป็นการชดเชยจิตใจที่บอบช้ำ มันจะทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง
6. หาวิธีระบายออก
หนึ่งในการบรรเทาความอัดอั้นตันใจ ที่เสียดแทงอยู่ภายในให้ทุเลาลงได้ คือ การหาทางระบายออก ไม่ว่าจะป็นการเขียนไดอะรี่ เขียนบล็อก คุยกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว ไม่ว่าจะโดยวิธีใด การได้ระบายเรื่องราวที่รู้สึกอยู่ในใจอกไปได้ จะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น บางทีคุณอาจจะได้คำแนะนำดี ๆ กลับมาด้วยล่ะ
ถึงจะเจ็บแต่ก็ถือซะว่ามันก็เป็นประสบการณ์ ที่สอนให้เราเรียนรู้อีกด้านหนึ่งของความรัก อย่างน้อยก่อนจะเจ็บเราก็เคยได้รับความสุขจากมันมาแล้วครั้งหนึ่ง.. และแม้รักจะจบลงไปแล้ว แต่ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป อยู่ที่คุณจะเรียนรู้ว่าจะอยู่กับมันอย่างไรนั่นเอง ขอให้ฟ้าหลังฝนกลายเป็นวันที่สดใสสำหรับคุณในไม่ช้านะคะ :)
แหล่งที่มา กระปุกดอทคอม
No comments:
Post a Comment