เคยได้ยินไหมที่ผู้ใหญ่มักจะบอกว่าถ้าจะรักใคร คิดจะแต่งงานกับใคร
ถ้าเป็นผู้ชายให้นึกถึงตอนที่ผู้หญิงคนนั้นหน้ามันอยู่ในครัว
นั่งเลี้ยงลูก ไม่ได้แต่งหน้า ไม่น่ามอง ถ้าเป็นผู้หญิงให้นึกถึงตอนที่ผู้ชายคนนั้นหัวล้าน
อ้วนพุงพลุ้ย นุ่ง กางเกงขาสั้นอยู่กับบ้านไม่หล่อไม่เท่อีกต่อไป
เรารับได้ไหมเรายังจะรักเขาอยู่ไหม
…เพราะเมื่อถึงตอนนั้นความสวยงาม ภายนอกจะค่อยๆ หมดไป
ความรู้สึกเป็นพิเศษกับคนๆ
นี้จะถูกความเคยชินเข้ามาแทนที่
แต่เราจะยังรักเขาอยู่ได้ก็ด้วยความดีในตัวเขา
ความเข้าใจ ความเอื้ออาทรต่อกัน…
มีคนเคยกล่าวไว้อีกว่าถ้าจะรักใครสักคนให้พยายามใช้สมองในอัตราที่ใกล้ๆกับการใช้หัวใจ
อย่ารักจนหลง อย่าให้ความรักทำให้เราตาบอด
ให้มองด้วยสายตาคนภายนอกซึ่งเป็นคนที่ปรารถนาดีต่อเราว่าเขามีความเห็นอย่างไร
การปรึกษาผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนยังคงได้ผลดีอยู่เสมอ…
อย่าหลงคนที่ตอนจีบตอนเพิ่งคบกันเขามาคอยเอาใจ
เพราะไม่มีใครทำอะไรโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน…
ถ้าเราไม่รัก
ไม่สนใจเขา ไม่เคยดีกับเขาเลย วันนี้เขาอาจยังอยู่กับเราและดีกับเรา
แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเจอคนที่ดีกับเขามากๆ
อย่างที่เขาดีกับ เราในวันนี้ เขาจะยังทนเราอยู่ไหม...
อย่าหลงคนที่วันนี้เขาอดทนกับเราเหลือเกิน
เพราะความอดทนทุกคนมีขีดจำกัด…
อย่าหลงคนที่ดีผิดปกติและทำกับเราอย่างคนพิเศษจนน่าใจหาย
เพราะไม่มีใครทำอย่างนี้ในเราได้ตลอดเวลาไปตลอดชีวิต…แต่
ให้เห็นค่าของคนที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเขาพยายามและอยากจะทำอะไรให้เรา
อย่างน้อยก็เกือบๆ
เท่ากับที่เขาอยากทำให้ตัวเขา เอง…เพราะคนที่ให้เราได้ขนาดนี้หรือมากกว่านี้ก็คงมีแต่พ่อกับแม่เท่านั้น
ถ้าได้เจอคนแบบนี้
อย่าปล่อยให้ผ่านไป และรู้ไว้ด้วยว่าเราคือคนที่โชคดีที่สุดแล้ว…
ในบางครั้งเมื่อเรารอความรักเรากลับหามันไม่พบ
แต่เมื่อเราไม่ต้องการมันกลับประดังเข้ามาจนตั้งตัวไม่ติด
ดังคำที่ว่า
Love
is something, That can't be predicted,
It
comes as a surprise, when you least expect it.
ไม่มีใครรู้หรอกว่าความรักที่แท้จริงจะมาถึงเมื่อไหร่
เราจะได้เจอคนๆนั้นเมื่อไหร่
หรือคนๆ นี้ที่เจอจะใช่คนที่เรารอ ไหม
บางคนอาจได้เจอคนๆนั้นตั้งแต่ยังเด็กเป็นเพื่อนเล่นกันมา
ในขณะที่บางคนกลับใช้เวลารอคอยครึ่งค่อนชีวิตกว่าจะได้เจอ
บางคนคิดว่าใช่แน่นอนแล้ว
แต่สุดท้ายกลับต้องแยกจากกัน
บางคนรู้จักกันมานานไม่ได้คิดอะไรกลับได้ลงเอยกันในที่สุด…
ความรักไม่ใช่เรื่องของการชั่งน้ำหนักว่าใครดีกว่าใคร
แต่เป็นเรื่องของใครเหมาะสำหรับเรามากกว่า
ความรักขึ้นอยู่กับ
โอกาส เวลา สถานการณ์
ถ้าคนที่เหมาะสมก้าวเข้ามาในชีวิตเราในเวลาที่เหมาะสม
เราพร้อมเขาพร้อม
นั่นก็เป็นโชคของเรา
เป็นสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิต…
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร
คนๆนั้นจะต้องยอมเสียสละ ยอมปรับตัวให้เข้ากับเรา ทำเพื่อเรา
ในขณะ
เดียวกัน
เราจะต้องเห็นค่าของเขามากพอที่เราจะเสียสละและปรับตัวเพื่อเขาเช่นกัน…
คู่ของใครก็สำหรับคนนั้น… ถ้าคนๆนี้ของเราเขาทำเพื่อเราทุกอย่าง
ถึงเราจะไม่สวย ไม่หล่อ ไม่โดดเด่นกว่าใครๆ
เขาก็ยังคงมองเราเพียงคนเดียว
ปฏิบัติต่อเราอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
และทำให้เรารู้สึกว่าเรามีค่าสำหรับเขาซะเหลือเกิน....
ถึงตอนนั้นคนรอบข้างเราจะดี
จะน่ารัก จะเป็นยังไงไม่สำคัญแล้ว
ไม่ต้องพิจารณาแล้ว...
เพราะถ้าเราได้เจอคนที่เหมาะสม ที่เข้ากับเราได้
คนที่เราแน่ใจว่าเขามีค่าสำหรับเราจริงๆ
เราก็ไม่จำเป็นต้องมองใครอีกแล้วในโลกนี้...
ถ้าหากไม่เจอคนๆนั้น
หรือไม่เจอคนที่เห็นค่าของเรา
ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
เพราะเรามีค่าและเราควรจะ รู้ว่าค่าของตัวเองมีมากเพียงใด...
"เพชร"
ไม่ว่าจะมีคนพบหรือไม่ก็ยังเป็นเพชร ธาตุแท้ของเพชรไม่เคยเปลี่ยน
"เรา" ไม่ว่าจะ ได้เจอคนๆ นั้นหรือไม่
เราควรจะรู้ค่าของตนเอง เห็นค่าของตนเอง และรู้ด้วยว่าคุณค่าของเราไม่เคยเปลี่ยนไปเช่นกัน…
เหมือนเหรียญในมือ
ไม่ว่าเราจะอยากดูหรือไม่
ผู้ใหญ่จะแบมือให้ดูหรือไม่
เหรียญก็ยังคงเป็นเหรียญๆ
เดิมและค่าของมันก็ ไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมเลย รู้สึกเป็นพิเศษอีก…
ขอบคุณ : Bloggang คุณ Annie
http://variety.teenee.com
No comments:
Post a Comment