การเดทเป็นช่วงเวลาที่ศึกษาดูใจกัน
ทำความรู้กันก่อนที่จะตัดสินใจมาคบหากัน ดังนั้น ในช่วงเวลานี้ สาว ๆ ต้องคิดแล้วคิดอีกให้ดีว่า
จะจบการเดทหรือจะก้าวต่อพัฒนามาเป็นคนรัก เพราะถ้าตัดสินใจพลาดชีวิตรักคุณอาจจะไม่แฮปปี้
และเป็นการเสียเวลาเปล่า ๆ เอาเวลาไปศึกษาคนอื่นดีกว่า ดังนั้น กระปุกดอทคอมจึงนำสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรยุติการเดทมาฝากสาว
ๆ กันจ้า เพื่อจะได้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าจะก้าวไปในทิศทางไหน
1. ติดโทรศัพท์เกินเหตุ
พวกที่คิดว่าโทรศัพท์เป็นอวัยวะอีกส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็มักจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นตลอดเวลา ไม่สนใจเราเท่าที่ควร หรือชอบปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ บ่อยครั้ง แหม...ไม่สนใจเรานี่ยังไม่เท่าไหร่นะจ๊ะ แต่ถ้ามีอาการลุกลี้ลุกลนเวลาที่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นนี่สิ มันน่าสงสัยไหมล่ะว่าเขามีความลับอะไรซ่อนอยู่ พฤติกรรมมีพิรุธตั้งแต่แรกเลย หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นสามารถยุติการเดทได้เลยนะ เพราะการกระทำมันส่อว่าเขาอาจจะมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า
2. ไม่พาไปแนะนำกับเพื่อน ครอบครัวของเขาเลย
ถ้าเดทกันมานานกว่า 6 เดือน และสนิทสนมกันมากระดับหนึ่ง ก็น่าจะพาไปรู้จักกับสังคมของเขาบ้าง สาว ๆ รู้ไหมว่าการไม่พาไปแนะนำ โดยทำเป็นเงียบ ๆ หรือพยายามเลี่ยงตลอด มันก็น่าสงสัยนะว่าทำไมต้องเป็นความลับ ทำไมถึงไม่ต้องการให้คนอื่นทราบ ซึ่งมันคงมีหลายเหตุผลที่เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร มันก็ไม่ดีต่อความรู้สึกของผู้หญิงอย่างพวกเราอยู่แล้ว
3. ไปไหนมาไหนกับผู้หญิงอื่นบ่อยซะเหลือเกิน
จริงอยู่ที่ระหว่างเดทกัน คุณยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน แต่การเห็นหนุ่มคนนั้นควงผู้หญิงคนอื่นไปไหนมาไหนกันสองคน มันก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นอะไรกันหรือเปล่า ถึงเขาจะยืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น แต่เจอแบบนี้ใคร ๆ ก็ต้องหวาดระแวง ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงตัดสินใจถึงความสัมพันธ์ด้วยแล้ว ก็อย่าเพิ่งรีบใจร้อนมอบหัวใจให้เขาไปซะล่ะ ค่อย ๆ ดูไปยาว ๆ เดี๋ยวจะน้ำตาตกเอาทีหลังได้นะ
4. ล้อเล่นกับความรู้สึก
ผู้ชายบางคนก็ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของสาว ๆ ชอบทำเป็นมาเอาอกเอาใจ แล้วต่อมาก็ตั้งใจแสดงอาการเมินเฉย เขาอาจจะทำไปเพราะความสนุก หรือต้องการสังเกตปฏิกิริยาของคุณก็ได้ แต่ไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลอะไร มันก็ไม่ดีทั้งนั้นล่ะ เพราะแสดงถึงความไม่จริงใจ แล้วแบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาที่ทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้นั้นมันออกมาจากความจริงใจ หรือแค่นึกสนุกเฉย ๆ กันแน่ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น อย่ายอมเป็นอันขาด พูดไปเลยตรง ๆ ว่าทำแบบนี้ทำไม อย่ายอมเป็นของเล่นเพื่อความสนุกสนานของเขาเลยดีกว่า
5. เพื่อนพูดกันหนาหูในทางไม่ดีเกี่ยวกับเขา
เวลาที่กำลังอินเลิฟ อะไร ๆ ก็ดูดีในสายตาคุณไปซะทุกอย่าง หรือพูดอีกอย่างว่าความรักทำให้คนตาบอดนั่นเอง ขนาดเพื่อนฝูงบอกว่า “นี่ ๆ แฟนเธอนะ นิสัยไม่ได้เรื่องเลย” หรือเตือนอะไรก็ตามเกี่ยวกับแฟนของคุณ ก็ต้องฟังบ้าง ไม่ใช่ว่าหลับหูหลับตา ไม่รับฟัง และสรรหาข้อแก้ตัวให้แฟนได้ตลอดเวลา เพื่อนอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดีนะ ลองมองอะไรตามความเป็นจริง และตัดสินด้วยเหตุผลไม่ใช่ความพิศวาส ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจริง ๆ ก็มองหาคนใหม่เถอะ ยุติการเดทครั้งนี้ไปเลย
6. แสดงออกเหมือนไม่ค่อยอยากรู้จักครอบครัวของคุณ
มันก็ เรื่องธรรมดานี่ล่ะ เวลาคบกันสนิทกันได้สักพัก ก็ต้องพาไปรู้จักบ้าน รู้จักคนในครอบครัว แต่ถ้าเขาแสดงอาการเบื่อ ทำหน้าบูดบึงคล้ายว่าโลกจะแตก และไม่ใส่ใจ ไม่สนใจอยากทำความรู้จัก หรือแม้แต่แค่ชื่อ พี่ น้อง ก็ยังจำไม่ได้ นั่นแสดงว่าเขาไม่ให้ความสำคัญกับคุณเลย บางทีเขาอาจจะไม่อยากจริงจังกับความสัมพันธ์นี้มากนัก เลยไม่รู้สึกว่าอยากจะรู้จักครอบครัวของคุณก็ได้ เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ต้องคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยว่ารู้สึกอย่างไร จริงจังกับความสัมพันธ์มาก-น้อยแค่ไหน เราจะได้ไม่คิดไปเองฝ่ายเดียว และจะได้ตัดสินใจได้ว่าควรยุติการเดทครั้งนี้หรือไม่
7. อยู่แต่กับเพื่อน ไม่มีเวลาให้ตลอดเลย
คนกำลังศึกษาดูใจกันมันก็ควรมีเวลา พบปะ พูดคุย หรือไปไหนต่อไหนด้วยกันบ่อย ๆ เพื่อจะได้รู้จักกันมากขึ้น แต่ถ้าเอะอะก็ไม่ว่าง ๆ ชวนไปไหนก็ไม่ไป แต่ดันไปสิงสถิตอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา ติดเพื่อนมากเกินไป...นี่ก็ไม่ไหวนะ เหมือนว่าพวกสาว ๆ อย่างเราไม่มีความสำคัญเอาซะเลย ถ้าเริ่มต้นความสัมพันธ์กันแบบนี้แล้ว ต่อไปจะเป็นอย่างไร ต้องคุยให้รู้เรื่อง อย่าปล่อยเลยตามเลยไปล่ะ เพราะตัวคุณเองจะเสียใจภายหลังได้
8. ชอบข่มว่าตัวเองเหนือกว่า
ไม่มีใครชอบการถูกข่มหรือถูกทำให้รู้สึกว่าตัวเราด้อยกว่าหรอก มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากเลยทีเดียว ขนาดมีเพื่อนนิสัยแบบนี้ยังไม่ค่อยอยากจะคุยด้วยเลย แล้วถ้าต้องเดทกับผู้ชายที่มีนิสัยเช่นนี้ล่ะ -_- ถึงเขาจะมีข้อดีอีกมากมาย แต่นิสัยแบบนี้มันแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวเอง หรือเห็นแต่ข้อดีของตัวเอง สมัยนี้สิทธิผู้หญิง-ชายเท่าเทียมกันแล้วนะ สาว ๆ ทั้งหลายก็ต้องมั่นใจในคุณค่าของตัวค่ะ อย่าไปทนเดทกับผู้ชายแบบนี้เลย รีบเอาตัวออกมาดีกว่า อยู่กับคนลักษณะนี้ไปตลอดชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไรกันล่ะ
9. เอาแต่ใจตัวเองเกินไป
คนที่เอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปไม่ถึงนึกจิตใจคนอื่น เป็นกลุ่มคนที่อยู่ใกล้แล้วไม่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ฟังใคร ไม่สนความรู้สึก หรือพยายามจะเข้าใจคนอื่นทั้งนั้น ถ้าคนที่เดทด้วยมีนิสัยแบบนี้ล่ะก็ เชื่อได้เลยว่าคุณจะถูกเอาเปรียบตลอด เพราะว่าเวลาที่ตัดสินใจอยากกินอะไร ดูหนังเรื่องอะไร คุณไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น พูดไปเขาก็ไม่ฟัง เขาจะเอาแบบที่เขาต้องการ มันไม่แฟร์เลยใช่ไหมล่ะ ทีนี้ลองจินตนาการดูนะว่าถ้ามีแฟนแบบนี้จะแฮปปี้หรือเปล่า ถ้าไม่ล่ะก็...หยุดการเดทและไปศึกษาคนอื่นดีกว่า
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า ถ้าคบเป็นแฟนกันแล้วมันอาจจะเกิดปัญหาตามมา และทำให้ต้องเสียน้ำตาภายหลังก็ได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณเอง ทั้งนี้ ต้องคิดอย่างมีสติ รอบคอบ และอย่ายอมตกเป็นของเล่นของพวกผู้ชายที่ไม่มีความจริงใจให้นะจ๊ะ พวกเราต้องเห็นคุณค่าในตัวเองและเลือกคนดี จริงใจ ถูกต้องไหมล่ะ
1. ติดโทรศัพท์เกินเหตุ
พวกที่คิดว่าโทรศัพท์เป็นอวัยวะอีกส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว เวลาไปเที่ยวที่ไหนก็มักจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานั่งเล่นตลอดเวลา ไม่สนใจเราเท่าที่ควร หรือชอบปลีกตัวออกไปคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน ๆ บ่อยครั้ง แหม...ไม่สนใจเรานี่ยังไม่เท่าไหร่นะจ๊ะ แต่ถ้ามีอาการลุกลี้ลุกลนเวลาที่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นนี่สิ มันน่าสงสัยไหมล่ะว่าเขามีความลับอะไรซ่อนอยู่ พฤติกรรมมีพิรุธตั้งแต่แรกเลย หากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นสามารถยุติการเดทได้เลยนะ เพราะการกระทำมันส่อว่าเขาอาจจะมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่า
2. ไม่พาไปแนะนำกับเพื่อน ครอบครัวของเขาเลย
ถ้าเดทกันมานานกว่า 6 เดือน และสนิทสนมกันมากระดับหนึ่ง ก็น่าจะพาไปรู้จักกับสังคมของเขาบ้าง สาว ๆ รู้ไหมว่าการไม่พาไปแนะนำ โดยทำเป็นเงียบ ๆ หรือพยายามเลี่ยงตลอด มันก็น่าสงสัยนะว่าทำไมต้องเป็นความลับ ทำไมถึงไม่ต้องการให้คนอื่นทราบ ซึ่งมันคงมีหลายเหตุผลที่เป็นไปได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร มันก็ไม่ดีต่อความรู้สึกของผู้หญิงอย่างพวกเราอยู่แล้ว
3. ไปไหนมาไหนกับผู้หญิงอื่นบ่อยซะเหลือเกิน
จริงอยู่ที่ระหว่างเดทกัน คุณยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน แต่การเห็นหนุ่มคนนั้นควงผู้หญิงคนอื่นไปไหนมาไหนกันสองคน มันก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาเป็นอะไรกันหรือเปล่า ถึงเขาจะยืนยันว่าเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น แต่เจอแบบนี้ใคร ๆ ก็ต้องหวาดระแวง ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงตัดสินใจถึงความสัมพันธ์ด้วยแล้ว ก็อย่าเพิ่งรีบใจร้อนมอบหัวใจให้เขาไปซะล่ะ ค่อย ๆ ดูไปยาว ๆ เดี๋ยวจะน้ำตาตกเอาทีหลังได้นะ
4. ล้อเล่นกับความรู้สึก
ผู้ชายบางคนก็ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกของสาว ๆ ชอบทำเป็นมาเอาอกเอาใจ แล้วต่อมาก็ตั้งใจแสดงอาการเมินเฉย เขาอาจจะทำไปเพราะความสนุก หรือต้องการสังเกตปฏิกิริยาของคุณก็ได้ แต่ไม่ว่าจะทำด้วยเหตุผลอะไร มันก็ไม่ดีทั้งนั้นล่ะ เพราะแสดงถึงความไม่จริงใจ แล้วแบบนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาที่ทำอะไรหลาย ๆ อย่างให้นั้นมันออกมาจากความจริงใจ หรือแค่นึกสนุกเฉย ๆ กันแน่ ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น อย่ายอมเป็นอันขาด พูดไปเลยตรง ๆ ว่าทำแบบนี้ทำไม อย่ายอมเป็นของเล่นเพื่อความสนุกสนานของเขาเลยดีกว่า
5. เพื่อนพูดกันหนาหูในทางไม่ดีเกี่ยวกับเขา
เวลาที่กำลังอินเลิฟ อะไร ๆ ก็ดูดีในสายตาคุณไปซะทุกอย่าง หรือพูดอีกอย่างว่าความรักทำให้คนตาบอดนั่นเอง ขนาดเพื่อนฝูงบอกว่า “นี่ ๆ แฟนเธอนะ นิสัยไม่ได้เรื่องเลย” หรือเตือนอะไรก็ตามเกี่ยวกับแฟนของคุณ ก็ต้องฟังบ้าง ไม่ใช่ว่าหลับหูหลับตา ไม่รับฟัง และสรรหาข้อแก้ตัวให้แฟนได้ตลอดเวลา เพื่อนอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดีนะ ลองมองอะไรตามความเป็นจริง และตัดสินด้วยเหตุผลไม่ใช่ความพิศวาส ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจริง ๆ ก็มองหาคนใหม่เถอะ ยุติการเดทครั้งนี้ไปเลย
6. แสดงออกเหมือนไม่ค่อยอยากรู้จักครอบครัวของคุณ
มันก็ เรื่องธรรมดานี่ล่ะ เวลาคบกันสนิทกันได้สักพัก ก็ต้องพาไปรู้จักบ้าน รู้จักคนในครอบครัว แต่ถ้าเขาแสดงอาการเบื่อ ทำหน้าบูดบึงคล้ายว่าโลกจะแตก และไม่ใส่ใจ ไม่สนใจอยากทำความรู้จัก หรือแม้แต่แค่ชื่อ พี่ น้อง ก็ยังจำไม่ได้ นั่นแสดงว่าเขาไม่ให้ความสำคัญกับคุณเลย บางทีเขาอาจจะไม่อยากจริงจังกับความสัมพันธ์นี้มากนัก เลยไม่รู้สึกว่าอยากจะรู้จักครอบครัวของคุณก็ได้ เมื่อเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ต้องคุยกันให้รู้เรื่องไปเลยว่ารู้สึกอย่างไร จริงจังกับความสัมพันธ์มาก-น้อยแค่ไหน เราจะได้ไม่คิดไปเองฝ่ายเดียว และจะได้ตัดสินใจได้ว่าควรยุติการเดทครั้งนี้หรือไม่
7. อยู่แต่กับเพื่อน ไม่มีเวลาให้ตลอดเลย
คนกำลังศึกษาดูใจกันมันก็ควรมีเวลา พบปะ พูดคุย หรือไปไหนต่อไหนด้วยกันบ่อย ๆ เพื่อจะได้รู้จักกันมากขึ้น แต่ถ้าเอะอะก็ไม่ว่าง ๆ ชวนไปไหนก็ไม่ไป แต่ดันไปสิงสถิตอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา ติดเพื่อนมากเกินไป...นี่ก็ไม่ไหวนะ เหมือนว่าพวกสาว ๆ อย่างเราไม่มีความสำคัญเอาซะเลย ถ้าเริ่มต้นความสัมพันธ์กันแบบนี้แล้ว ต่อไปจะเป็นอย่างไร ต้องคุยให้รู้เรื่อง อย่าปล่อยเลยตามเลยไปล่ะ เพราะตัวคุณเองจะเสียใจภายหลังได้
8. ชอบข่มว่าตัวเองเหนือกว่า
ไม่มีใครชอบการถูกข่มหรือถูกทำให้รู้สึกว่าตัวเราด้อยกว่าหรอก มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากเลยทีเดียว ขนาดมีเพื่อนนิสัยแบบนี้ยังไม่ค่อยอยากจะคุยด้วยเลย แล้วถ้าต้องเดทกับผู้ชายที่มีนิสัยเช่นนี้ล่ะ -_- ถึงเขาจะมีข้อดีอีกมากมาย แต่นิสัยแบบนี้มันแสดงให้เห็นถึงความเห็นแก่ตัวเอง หรือเห็นแต่ข้อดีของตัวเอง สมัยนี้สิทธิผู้หญิง-ชายเท่าเทียมกันแล้วนะ สาว ๆ ทั้งหลายก็ต้องมั่นใจในคุณค่าของตัวค่ะ อย่าไปทนเดทกับผู้ชายแบบนี้เลย รีบเอาตัวออกมาดีกว่า อยู่กับคนลักษณะนี้ไปตลอดชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไรกันล่ะ
9. เอาแต่ใจตัวเองเกินไป
คนที่เอาแต่ใจตัวเองมากเกินไปไม่ถึงนึกจิตใจคนอื่น เป็นกลุ่มคนที่อยู่ใกล้แล้วไม่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ไม่ฟังใคร ไม่สนความรู้สึก หรือพยายามจะเข้าใจคนอื่นทั้งนั้น ถ้าคนที่เดทด้วยมีนิสัยแบบนี้ล่ะก็ เชื่อได้เลยว่าคุณจะถูกเอาเปรียบตลอด เพราะว่าเวลาที่ตัดสินใจอยากกินอะไร ดูหนังเรื่องอะไร คุณไม่มีสิทธิ์ออกความเห็น พูดไปเขาก็ไม่ฟัง เขาจะเอาแบบที่เขาต้องการ มันไม่แฟร์เลยใช่ไหมล่ะ ทีนี้ลองจินตนาการดูนะว่าถ้ามีแฟนแบบนี้จะแฮปปี้หรือเปล่า ถ้าไม่ล่ะก็...หยุดการเดทและไปศึกษาคนอื่นดีกว่า
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงสัญญาณที่บ่งบอกว่า ถ้าคบเป็นแฟนกันแล้วมันอาจจะเกิดปัญหาตามมา และทำให้ต้องเสียน้ำตาภายหลังก็ได้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของคุณเอง ทั้งนี้ ต้องคิดอย่างมีสติ รอบคอบ และอย่ายอมตกเป็นของเล่นของพวกผู้ชายที่ไม่มีความจริงใจให้นะจ๊ะ พวกเราต้องเห็นคุณค่าในตัวเองและเลือกคนดี จริงใจ ถูกต้องไหมล่ะ
No comments:
Post a Comment