มีเรื่องราว ความเชื่อ และความคิดมากมายที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน ในเรื่องราวเหล่านั้นก็มีทั้งเรื่องจริงและเรื่องที่เล่าต่อ
ๆ กันมา ซึ่งบางครั้งบางเรื่องก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คู่บ่าวสาวส่วนใหญ่ได้ยินมาเสมอไป โดยเฉพาะ 5 เรื่องแต่งงานที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ หากอยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรบ้างก็ตามไปดูกันเลย
1. วันพิเศษของเจ้าสาว
สำหรับสาว ๆ หลายคนคงคิดว่าวันแต่งงานเป็นของเจ้าสาว เพราะเป็นวันที่เธอจะได้ใส่ชุดในฝัน แต่งตัวสวย ๆ เดินควงแขนกับคนที่เธอรัก ซึ่งแท้จริงแล้ววันแต่งงานควรจะเป็นวันของคุณกับคนรักที่จะได้มีช่วงเวลาพิเศษอีกช่วงหนึ่งของชีวิตพร้อมกัน ดังนั้น จึงควรเอาใจใส่และให้ความสำคัญในรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งของตัวเองและของคนรักด้วย
2. จำเป็นต้องมีของชำร่วยให้กับแขกที่มาร่วมงาน
หากมองในแง่ของความเหมาะสมแล้วงานแต่งงานก็ควรจะมีของชำร่วย เพื่อเป็นการขอบคุณให้กับแขกที่มาร่วมงาน แต่หลายต่อหลายครั้งที่พบงานสิ่งของชำร่วยที่นำมาแจกในงานแต่งงานนั้นกลับ ถูกวางทิ้งไว้ ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็เพราะเป็นสิ่งของที่แขกไม่ได้ใช้งาน ดังนั้น หากไม่อยากให้งบประมาณเสียเปล่า ก่อนที่คุณจะสั่งของชำร่วยควรจะคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานเสียก่อน ว่าเป็นสิ่งของที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของคุณมาก น้อยแค่ไหน แล้วจึงค่อยสั่งของชำร่วยมาแจกจะดีกว่า
3. ไม่ควรเจอคู่หมั้นจนกว่าจะถึงพิธีแต่งงาน
บางคู่อาจจะยึดกับกฎเกณฑ์ที่กล่าวมานี้ จนลืมไปว่าในวันแต่งงานพวกคุณจะมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันน้อยมาก เพราะตลอดทั้งวันนั้นนอกจากจะต้องพบปะกับแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ทั้งครอบครัวกับเพื่อน ๆ ของตัวเองและของอีกฝ่ายแล้ว ยังมีช่วงปาร์ตี้สังสรรค์จนแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันจนกว่าจะจบงานเลยทีเดียว ทั้งที่จริงแล้ววันสำคัญแบบนี้พวกคุณควรจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้ได้มากที่สุด โดยในตอนเช้าหรือช่วงก่อนที่จะเริ่มพิธีแต่งงานอาจจะลองพูดคุยหรือพากันไป เดินเล่นใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักพัก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันก่อนถึงเวลาเริ่มงานแต่งงานก็ได้
4. งานแต่งงานจำเป็นจะต้องมีปาร์ตี้
เนื่องจากงานแต่งงานหลาย ๆ งานมีการจัดปาร์ตี้สังสรรค์หลังจากจัดพิธีแต่งงาน ดังนั้น จึงทำให้ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่คิดว่า จำเป็นจะต้องมีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันแต่งงานตามไปด้วย ไม่เช่นนี้จะรู้สึกว่าเหมือนงานแต่งงานของตัวเองไม่สมบูรณ์ ก็เลยจัดการเชิญแขกทั้งคนสนิทและไม่สนิทมาร่วมกันเลี้ยงฉลองวันแต่งงาน โดยในงานปาร์ตี้นั้นอาจมีแขกจำนวนมากกว่าครึ่งที่แทบไม่เคยติดต่อเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะความเกรงใจและกลัวว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่พอก็เลยต้องเชิญมาร่วมงาน ด้วย ทั้งที่จริงแล้วงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองนั้นอาจไม่จำเป็นจะต้องจัดก็ได้ มีแค่พิธีงานแต่งงานที่เป็นกิจจะลักษณะกับแขกที่คุณสนิทกันจริง ๆ อย่างเช่น ญาติผู้ใหญ่ พี่น้อง และเพื่อนสนิทก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ หากต้องการจะขอบคุณก็อาจจะเลี้ยงอาหารมื้อเล็กสักมื้อก็ได้
5. วันแต่งงานเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต
หนุ่มสาวหลายคนมีความคิดว่า วันแต่งงานเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า วันแต่งงานเป็นวันสำคัญของชีวิต แต่คงไม่ใช่วันสำคัญที่สุด โดยอย่าลืมว่าในชีวิตของเรานั้นมีเรื่องราวมากมายที่ต้องเจออีกในอนาคต เพราะวันแต่งงานเป็นเพียงวันแรกของการเดินทางครั้งใหม่ของชีวิต จุดเริ่มต้นของการมีครอบครัว และมีความมั่นคงในชีวิตเพิ่มขึ้น
ซึ่งถ้าหากคุณรู้สึกตื่นเต้น เป็นกังวล และเครียดเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงาน จนทำให้คุณรู้สึกว่าการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ให้ลองหยุดนิ่งสักพักแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับเตือนตัวเองว่า วันแต่งงานไม่ใช่วันสำคัญที่สุดในชีวิต แต่เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชีวิต ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ทำให้ชีวิตของคุณสมบูรณ์ และดียิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 เรื่องแต่งงานที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าบางเรื่องนั้นคู่บ่าวสาวก็อาจจะรู้กันอยู่แล้ว แต่อาจจะหลงลืมไปบ้างเพราะความตื่นเต้นบวกกับความวุ่นวายหลาย ๆ อย่าง ซึ่งในเมื่อตอนนี้ก็รู้กันแล้วดังนั้นก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับคนรักของตัว เอง และจัดงานแต่งงานโดยคำนึงถึงจุดประสงค์หลักของงานแต่งงานเป็นสำคัญจะได้ไม่ รู้สึกเสียดายหรือเสียใจในภายหลัง
1. วันพิเศษของเจ้าสาว
สำหรับสาว ๆ หลายคนคงคิดว่าวันแต่งงานเป็นของเจ้าสาว เพราะเป็นวันที่เธอจะได้ใส่ชุดในฝัน แต่งตัวสวย ๆ เดินควงแขนกับคนที่เธอรัก ซึ่งแท้จริงแล้ววันแต่งงานควรจะเป็นวันของคุณกับคนรักที่จะได้มีช่วงเวลาพิเศษอีกช่วงหนึ่งของชีวิตพร้อมกัน ดังนั้น จึงควรเอาใจใส่และให้ความสำคัญในรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งของตัวเองและของคนรักด้วย
2. จำเป็นต้องมีของชำร่วยให้กับแขกที่มาร่วมงาน
หากมองในแง่ของความเหมาะสมแล้วงานแต่งงานก็ควรจะมีของชำร่วย เพื่อเป็นการขอบคุณให้กับแขกที่มาร่วมงาน แต่หลายต่อหลายครั้งที่พบงานสิ่งของชำร่วยที่นำมาแจกในงานแต่งงานนั้นกลับ ถูกวางทิ้งไว้ ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็เพราะเป็นสิ่งของที่แขกไม่ได้ใช้งาน ดังนั้น หากไม่อยากให้งบประมาณเสียเปล่า ก่อนที่คุณจะสั่งของชำร่วยควรจะคำนึงถึงประโยชน์การใช้งานเสียก่อน ว่าเป็นสิ่งของที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของคุณมาก น้อยแค่ไหน แล้วจึงค่อยสั่งของชำร่วยมาแจกจะดีกว่า
3. ไม่ควรเจอคู่หมั้นจนกว่าจะถึงพิธีแต่งงาน
บางคู่อาจจะยึดกับกฎเกณฑ์ที่กล่าวมานี้ จนลืมไปว่าในวันแต่งงานพวกคุณจะมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันน้อยมาก เพราะตลอดทั้งวันนั้นนอกจากจะต้องพบปะกับแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน ทั้งครอบครัวกับเพื่อน ๆ ของตัวเองและของอีกฝ่ายแล้ว ยังมีช่วงปาร์ตี้สังสรรค์จนแทบไม่ได้อยู่ด้วยกันจนกว่าจะจบงานเลยทีเดียว ทั้งที่จริงแล้ววันสำคัญแบบนี้พวกคุณควรจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้ได้มากที่สุด โดยในตอนเช้าหรือช่วงก่อนที่จะเริ่มพิธีแต่งงานอาจจะลองพูดคุยหรือพากันไป เดินเล่นใช้เวลาอยู่ด้วยกันสักพัก เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้สึกกันก่อนถึงเวลาเริ่มงานแต่งงานก็ได้
4. งานแต่งงานจำเป็นจะต้องมีปาร์ตี้
เนื่องจากงานแต่งงานหลาย ๆ งานมีการจัดปาร์ตี้สังสรรค์หลังจากจัดพิธีแต่งงาน ดังนั้น จึงทำให้ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่คิดว่า จำเป็นจะต้องมีปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันแต่งงานตามไปด้วย ไม่เช่นนี้จะรู้สึกว่าเหมือนงานแต่งงานของตัวเองไม่สมบูรณ์ ก็เลยจัดการเชิญแขกทั้งคนสนิทและไม่สนิทมาร่วมกันเลี้ยงฉลองวันแต่งงาน โดยในงานปาร์ตี้นั้นอาจมีแขกจำนวนมากกว่าครึ่งที่แทบไม่เคยติดต่อเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะความเกรงใจและกลัวว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่พอก็เลยต้องเชิญมาร่วมงาน ด้วย ทั้งที่จริงแล้วงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองนั้นอาจไม่จำเป็นจะต้องจัดก็ได้ มีแค่พิธีงานแต่งงานที่เป็นกิจจะลักษณะกับแขกที่คุณสนิทกันจริง ๆ อย่างเช่น ญาติผู้ใหญ่ พี่น้อง และเพื่อนสนิทก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ หากต้องการจะขอบคุณก็อาจจะเลี้ยงอาหารมื้อเล็กสักมื้อก็ได้
5. วันแต่งงานเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต
หนุ่มสาวหลายคนมีความคิดว่า วันแต่งงานเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า วันแต่งงานเป็นวันสำคัญของชีวิต แต่คงไม่ใช่วันสำคัญที่สุด โดยอย่าลืมว่าในชีวิตของเรานั้นมีเรื่องราวมากมายที่ต้องเจออีกในอนาคต เพราะวันแต่งงานเป็นเพียงวันแรกของการเดินทางครั้งใหม่ของชีวิต จุดเริ่มต้นของการมีครอบครัว และมีความมั่นคงในชีวิตเพิ่มขึ้น
ซึ่งถ้าหากคุณรู้สึกตื่นเต้น เป็นกังวล และเครียดเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงาน จนทำให้คุณรู้สึกว่าการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต ให้ลองหยุดนิ่งสักพักแล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ พร้อมกับเตือนตัวเองว่า วันแต่งงานไม่ใช่วันสำคัญที่สุดในชีวิต แต่เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชีวิต ที่เข้ามาช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ทำให้ชีวิตของคุณสมบูรณ์ และดียิ่งขึ้นเท่านั้นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 5 เรื่องแต่งงานที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เชื่อว่าบางเรื่องนั้นคู่บ่าวสาวก็อาจจะรู้กันอยู่แล้ว แต่อาจจะหลงลืมไปบ้างเพราะความตื่นเต้นบวกกับความวุ่นวายหลาย ๆ อย่าง ซึ่งในเมื่อตอนนี้ก็รู้กันแล้วดังนั้นก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับคนรักของตัว เอง และจัดงานแต่งงานโดยคำนึงถึงจุดประสงค์หลักของงานแต่งงานเป็นสำคัญจะได้ไม่ รู้สึกเสียดายหรือเสียใจในภายหลัง
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment