สูตรการรับประทานเพื่อสุขภาพตามที่ต่างๆ
มักเน้นที่ “ของสด” เป็นหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
แต่ท่านที่รักควรทราบว่ามีของสดอยู่หลายชนิด ที่ไม่จำเป็นต้องสดจากการ “แช่เย็น” หรือจาก “ตู้เย็น”
เสมอไป ซึ่งของสดที่อยู่นอกตู้เย็นได้
1) มะเขือเทศ
นอกจากเป็นผักต้านชราอันดับต้นแล้ว มะเขือเทศยังมีความพิเศษที่ธรรมชาติให้มาอีกโดยการที่มันสามารถเก็บไว้นอก
ตู้เย็นได้ โดยข้อเสียของการใส่มะเขือเทศที่ยังไม่สุกดีไว้ในตู้เย็นก็คือ “มันอาจไม่สุกอีกเลย” เพราะว่าความเย็นไป “เบรค” กระบวนการสุกของมันเสีย นอกจากนั้นความเย็นจนเกินไปยังไปทำลายรสสัมผัสของมัน
ทำให้มันเละและเสียรสไปครับ
2) กระเทียม
ครัวไทยสมัยก่อนนับแต่ยุคครัวไฟมีหัวกระเทียมแขวนไว้ติดเสา
ไม่ได้เอาไว้ไล่ผีดูดเลือดแต่ปู่ย่าตาทวดเรารู้มาก่อนว่ากระเทียมควรจะเก็บ อย่างไร
เพราะมันเสี่ยงต่อการ “ขึ้นรา” จึงต้องหาที่แห้งและลมโกรกใช้เก็บ
ซึ่งเสาและขื่อในครัวรวมถึงที่เก็บโปร่งๆ นั้นเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
3) หัวหอม
เก็บไว้นอกตู้เย็นได้สบาย ถึงเวลาจะเอามาใช้ก็ค่อยปอกเปลือกออก
ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือ “ความชื้น” ที่จะพา
“เชื้อรา” ให้มาทักทายเร็วกว่าที่ควรได้
ผิดกับต้นหอมและผักชีที่ควรต้องเก็บในตู้เย็นไม่เช่นนั้นจะเหี่ยวเสียได้ เทคนิคง่ายๆ
อีกข้อคือ อย่าเก็บหัวหอมร่วมกับ “มันฝรั่ง” ไม่อย่างนั้นจะเสียเร็ว
4) โหระพา
เป็นผักประจำครัวที่ไม่ควรเก็บในตู้เย็นเป็นอย่างยิ่ง
เพราะจะเกิดสิ่งที่ดูไม่น่ากินทันทีนั่นคือ ความห่อเหี่ยวอับเฉาจะมาเยือน เป็นการเตือนเบาๆ
ว่าโหระพาไม่ได้ชอบความเย็นจัดนัก ทางแก้ง่ายๆไม่ต้องพาโหระพาไปฉีดหน้าตึง
แค่หาตะกร้าสาน โปร่งๆ มาเป็นบ้านโหระพาให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่มีแมลงก็พอ
5) แตงโม
หน้านี้มีแตงโมเนื้อฉ่ำรวมถึงแตงต่างๆให้กินชื่นใจอีกทั้งได้ไลโคปีนไม่แพ้
มะเขือเทศอยู่มาก หากซื้อมาเป็นลูกเขียวๆ ยังไม่จำเป็นต้องรีบพาเข้าตู้เย็นให้หาช่องใส่ไม่ได้เสมอไป
เพราะแตงโมลูกเขียวกลมๆนี้มีเปลือกที่ช่วยรักษาสภาพคุมอุณหภูมิไว้ให้ดีอยู่ มีการศึกษาว่าที่อุณหภูมิห้องแตงมีแอนตี้ออกซิแดนท์สมบูรณ์ดี
6) กาแฟ
กาแฟผงหรือกาแฟสำเร็จรูปไม่ต้องเก็บในตู้เย็นเสมอไป ไม่อย่างนั้นนอกจากอาจทำให้ชื้นจากอณูน้ำในตู้เย็นแล้ว
ท่านอาจได้กาแฟรสประหลาดลิ้น เพราะกาแฟมีความสามารถ “ดักกลิ่น”
ได้เป็นอย่างดี คล้ายกับใส่ “ถ่านก้อน”
ดำๆไว้ในตู้เย็น ถ้าท่านไม่อยากให้อาราบิก้าหรือโรบัสต้าชั้นดีกลายเป็นกลิ่นทุเรียนหรือชีสก็แยกไว้ข้างนอกดีกว่า
7) น้ำผึ้ง
ไม่จำเป็นต้องแช่ในตู้เย็นก็อยู่ได้นับพันปี มีหลักฐานจากไหใส่น้ำผึ้งในหลุมพระศพฟาโรห์ที่ยังคงสภาพดีอยู่
ด้วยน้ำผึ้งแท้มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆได้ดีอยู่แล้ว ถึงขนาดใช้ทำแผลได้
ด้วยน้ำตาลที่เข้มข้นจัดบีบคั้นจนเชื้อตัวเล็กตัวน้อยไม่อาจอยู่ได้ในน้ำ ผึ้ง ซึ่งหากท่านเก็บในตู้เย็นจะทำให้น้ำหวานจากธรรมชาตินี้ตกผลึกเป็นน้ำตาลปึกไปเสีย
8) น้ำมันปรุงอาหาร
โดยเฉพาะ “น้ำมันมะพร้าว”
และ “น้ำมันมะกอก” เพราะด้วยความเย็นของตู้เย็นจะทำให้มันกลายเป็นไขราวกับเนยเหลวซึ่งนอกจากทำ
ให้ไม่น่ารับประทานแล้วยังต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆ กว่าจะให้ไขขุ่นนั้นกลับกลายเป็นน้ำมันใสได้อีกครั้ง
ให้เก็บน้ำมันเหล่านี้ไว้ภายนอก ปิดฝาให้ดี มีเทคนิคเล็กๆ
คือใช้ช้อนตวงน้ำมันทุกครั้งที่ใช้ ท่านจะได้รู้ปริมาณน้ำมันที่บริโภคต่อวัน
พยายามเลี่ยงการกะประมาณแล้วเท
9) ขนมปังแผ่น
แสนเสียดายเมื่อกินแซนด์วิชไม่หมดหรือขนมปังสังขยาเจ้าอร่อยเหลือแล้วใส่ตู้
เย็นไว้ เป็นการปิดชะตาชีวิตของขนมปังจนสนิททำให้ไม่มีใครอยากกินอีก โดยความเย็นจะทำให้ขนมปังเนื้อนุ่มกำลังดีกลายเป็นเหนียวแบบยางยืด
ส่วนขอบก็แข็งยากจะเคี้ยว นอกจากนั้นความเย็นชื้นในตู้เย็นยังพาขนมปังทั้งแถวป่วยด้วยเชื้อราได้เร็วเกินคาด
ตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ถนอมอาหารแสนพิเศษยิ่งถ้าเราใช้มันอย่างถูกวิธี
คือรู้ว่ามีสิ่งใดที่ควรใส่ตู้เย็นให้เป็นประโยชน์ แต่เมื่อใดที่มีความพยายามเอาของที่ไม่มีที่ทางจำเป็นในตู้เย็นไปใส่
สิ่งที่ได้อาจตรงกันข้ามคือ ของดีนั้นอาจกลับกลายเป็นของที่รับประทานไม่ได้ จนถึงขั้นต้องทิ้งไปอย่างกาแฟที่ไม่ว่าจะแบบบดหรือเมล็ดจะสลายรสอันดีงามไป
หมดเหลือแต่กลิ่นตุๆ แปลกๆ ของตู้เย็นแทน รวมถึงผักและสมุนไพรหลายอย่างที่อาจเฉาชอกช้ำได้เมื่อถูกขืนใจจับใส่ตู้
แต่ทางแก้ก็ไม่ยากเช่นบางอย่างจับใส่ห่อหรือกล่องกันอากาศไว้อย่างดีก็อยู่ในตู้เย็นได้
แหล่งที่มา : เว็บไซต์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์, http://www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment