โรคกระเพาะที่เรารู้จักกันมีที่มาที่ไปอย่างไร
การรักษามีข้อควรปฏิบัติ ข้อควรระวังอย่างไร
มาดูเรื่องราวน่าสนใจในเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคกระเพาะกันครับ
โรคกระเพาะ คืออะไร
พูดถึงโรคกระเพาะ บางคนนึกไปถึงการที่มีแผลในกระเพาะอาหาร แล้วก็เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น ... นั่นเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
โรคกระเพาะ คืออะไร
พูดถึงโรคกระเพาะ บางคนนึกไปถึงการที่มีแผลในกระเพาะอาหาร แล้วก็เกิดอาการเจ็บปวดขึ้น ... นั่นเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น
คำว่า โรคกระเพาะ เป็นภาษารวม ๆ หากจะเปรียบเทียบเป็นภาษาอังกฤษก็คงจะเขียนว่า Dyspepsia ซึ่งกินความถึงอาการ จุก แน่น เสียด เจ็บ ปวดที่บริเวณลิ้นปี่หรือท้องส่วนบน ... ดังนั้นคำว่าโรคกระเพาะจึงเป็นคำบอกอาการ ซึ่งโรคกระเพาะสามารถแบ่งได้เป็นกลุ่มที่มีแผล (แผลใหญ่ ๆ แผลจุดเลือดออกเล็ก ๆ หรือแม้กระทั่งมะเร็ง) และกลุ่มที่ไม่มีแผล
อีกอย่างหนึ่ง อาการโรคกระเพาะ อาจจะทำให้นึกถึงว่าเป็นโรคของกระเพาะอาหาร แต่ความจริงแล้ว อาการโรคกระเพาะ เกิดได้จากความผิดปกติของโรคตั้งแต่ทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ถุงน้ำดี หรือแม้แต่ลำไส้ใหญ่
สาเหตุของโรคกระเพาะ
ช่วงที่มีข่าวเรื่องนี้ ผู้ป่วยบางคนถึงกับหลงคิดไปเลยว่า โรคกระเพาะทั้งหมดเกิดจากเชื้อโรค แต่ความจริงโรคกระเพาะและแผลในกระเพาะ ต่างมีสาเหตุได้หลายอย่าง สาเหตุต่าง ๆ ก็ได้แก่
** ยาบางชนิด ยาหลายชนิดมีส่วนที่ทำให้เกิดอาการปวดท้องโรคกระเพาะ แต่ที่พบบ่อยและเป็นปัญหาในบ้านเรามากที่สุด เห็นจะเป็นยากลุ่มแก้ปวดข้อปวดกล้ามเนื้อ และยาสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาที่พบว่าใช้กันบ่อยและใช้กันผิด ๆ จนก่อโรคกระเพาะ
** บุหรี่ การสูบบุหรี่จะลดการสร้างสารป้องกันกระเพาะ และส่งเสริมการสร้างกรดในกระเพาะ จึงทำให้เกิดอาการของโรคกระเพาะ และเมื่อเกิดแผลในกระเพาะก็จะหายได้ยาก
** เหล้า กาแฟ ชา เป็นกลุ่มเครื่องดื่มที่ส่งเสริมการสร้างกรดในกระเพาะ
** เชื้อโรค อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วก็คือ เชื้อ H. pylori
** โรคของอวัยวะใกล้เคียงของช่องท้อง เช่น โรคของตับ โรคของถุงน้ำดี (นิ่ว) ตับอ่อน พวกนี้อาการเริ่มแรกอาจจะเป็นอาการปวด และทำให้ผู้ป่วยเข้าใจผิดว่าเป็นโรคกระเพาะได้
** โรคการทำงานของกระเพาะและลำไส้ที่ผิดปกติ เป็นโรคที่เมื่อตรวจไปเสร็จแล้ว ไม่พบว่ามีแผล หรือลักษณะผิดปกติแต่อย่างใด แต่การทำงานของกระเพาะลำไส้ผิดปกติไปเอง เช่น เคลื่อนไหวแรง หรือบีบตัวย้อนทาง จนก่ออาการปวด โรคในกลุ่มนี้ก็อย่างเช่น กลุ่ม IBS GERD
** มะเร็ง เจอไม่มาก แต่เป็นสิ่งที่แพทย์และผู้ป่วยต้องร่วมมือกันในค้นหาเพื่อจะได้รักษากัน อย่างถูกต้อง และไม่หลงทางไปรักษาอาการปวดแต่อย่างเดียว
บางคนอาจจะเถียงว่า โรคในสามข้อล่างไม่ใช่โรคกระเพาะ แต่อย่าลืมนะครับว่าคนเราไปหาหมอ ไปหาด้วยอาการ ไม่ได้ไปหาด้วยชื่อโรค ดังนั้นก็ต้องคำนึงถึงโรคพวกนี้ไว้ด้วย
สัญญาณอันตราย
สัญญาณอันตรายดังต่อไปนี้ จะเป็นข้อมูลที่ทำให้แพทย์ส่งส่องกล้องดูกระเพาะอาหารโดยไม่รอการรักษาด้วยยากิน
น้ำหนัก ลดผิดปกติ (มากกว่า 10% ใน 3 เดือน) เบื่ออาหารมาก กลืนลำบาก ถ่ายอุจจาระดำหรือมีเลือดปน ลักษณะการถ่ายอุจจาระเปลี่ยนไปจากเดิม ซีด โลหิตจาง อาการรุนแรง มีประวัติโรคมะเร็งของทางเดินอาหารในครอบครัว อาการเหล่านี้จะทำให้ต้องระวังว่าอาจจะเป็นโรคมะเร็งได้
อาหารของโรคกระเพาะ
ถึงแม้ว่าโรคแผลในกระเพาะจะมีเหตุจากเชื้อโรคได้ แต่ว่าโรคกระเพาะที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคก็ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีแผล การดูแลแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนรู้จักกันดีก็ยังมีประโยชน์อยู่ ได้แก่
** กินอาหารให้ตรงเวลา
** ไม่กินอาหารรสจัด (เค็ม เผ็ด เปรี้ยว) อาหารหมักดอง อาหารมัน ๆ
** ไม่กินของที่มีแก็ส หรือก่อแก็ส เช่น น้ำอัดลม ผลิตภัณฑ์จากถั่ว (เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง)
** กินผักผลไม้ เพื่อช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี
** การกินอาหารที่ดี จะช่วยลดอาการของโรคกระเพาะได้ครับ
ถึงแม้ว่าโรคแผลในกระเพาะจะมีเหตุจากเชื้อโรคได้ แต่ว่าโรคกระเพาะที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคก็ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีแผล การดูแลแบบเดิม ๆ ที่ทุกคนรู้จักกันดีก็ยังมีประโยชน์อยู่ ได้แก่
** กินอาหารให้ตรงเวลา
** ไม่กินอาหารรสจัด (เค็ม เผ็ด เปรี้ยว) อาหารหมักดอง อาหารมัน ๆ
** ไม่กินของที่มีแก็ส หรือก่อแก็ส เช่น น้ำอัดลม ผลิตภัณฑ์จากถั่ว (เต้าหู้ น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง)
** กินผักผลไม้ เพื่อช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี
** การกินอาหารที่ดี จะช่วยลดอาการของโรคกระเพาะได้ครับ
คัดลอกบทความบางส่วนมาจาก
กระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณหมอแมว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก คุณหมอแมว
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment