ตื่นเช้ามาก็ดื่มกาแฟให้ตาเปิด
บ่ายสามวิ่งหาขนมหวานๆ เพื่อไม่ให้หลับ กลับบ้านก็คว้าถุงมันฝรั่งนั่งโจ้หน้าทีวี
ถ้าสนุกกับงานมาก แต่ตลอดเวลามีอาการแบบนี้จะเรียกว่ายังดีอยู่ไหม เราเลยไปหาคำตอบและทางแก้มาฝาก
หลุมพราง # 1 ยามเช้าที่มาถึงช้า
อาการที่เข้าขั้น : ชงกาแฟให้ตัวเองอย่างน้อยสี่แก้วตั้งแต่ยังไม่เที่ยงดีหรือบางวันก็สลับเป็นกาแฟสอง ไดเอตโค้กอีกสอง รู้สึกตาและประสาทลุกโพลนตลอดเวลา มีแรงแบบเครียดๆ อย่างบอกไม่ถูก
รู้สึกไฮเปอร์จนออกจะเหนื่อยบางครั้งพอไปเช็คความดันถึงได้รู้ว่าพุ่งปรี๊ดเสียแล้ว
แก้ด้วยการ
: ลดกาเฟอีนและเปลี่ยนเป็นดื่มน้ำเปล่าแทน แต่อย่าหักดิบในทันทีทันใดควรค่อยๆ
เริ่มทีละน้อยด้วยการลดจำนวนแก้วที่ต้องดื่มลงทีละสัปดาห์ จนร่างกายปรับตัวได้เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหัว
จนในที่สุดแล้วจะสามารถอยู่ได้ดื่มกาแฟเพียงวันละแก้วก็พอ และรู้สึกว่านอนหลับได้สนิทดีขึ้นในตอนกลางคืน
หลุมพราง # 2 บ่ายทีไรง่วงทุกที พอบ่ายก็ต้องมีขนมกรุบกรอบไว้แก้ง่วง
อาการที่เข้าขั้น : ชีวิตนี้เริ่มต้นและจบลงด้วยแป้งเท่านั้น กินขนมปังตอนเช้า กลางวันพุ่งเข้าหาร้านฟาสต์ฟู้ด พอบ่ายก็ต้องมีคุกกี้ มันฝรั่ง หรือไม่ก็เบเกอรี่ติดโต๊ะทำงานไว้จะได้รู้สึกสดชื่นตาสว่างขึ้น (แบบชั่วคราว) ทุกครั้งเพราะน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น แต่พอทุกอย่างย่อยสลายก็หมดแรงอยากจะล้มตัวลงนอนท่าเดียว
แก้ด้วยการ
: ลดแป้งและกินโปรตีนให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ เพื่อสร้างพลังงานแบบไม่ทำร้ายร่างกาย
และระดับน้ำตาลในเลือดจะคงที่มากขึ้น เช้าๆ ควรเปลี่ยนมากินโยเกิร์ต ไข่เจียว
(ไข่ดาวก็ได้) และผลไม้ กลางวันกิน สลัดทูน่า สลัดไก่ หรือเกาเหลา
มื้อเย็นให้กินปลากับผัดผัก ช่วงบ่ายๆ ให้ผลไม้แทน
หลุมพราง # 3 กลับบ้านแล้วสลบคาทีวี
อาการที่เข้าขั้น : ทิ้งตัวลงบนโซฟาได้ปุ๊บมือก็กดรีโมตทีวีปั๊บ ไม่ได้สิ เดี๋ยวตกข่าว ดูๆ ไปมีแต่ข่าวเครียดๆ จากทุกมุมโลก ยิ่งดูก็ยิ่งเครียดตาม จบข่าวแล้วไปหาอะไรมากินไปพลางเปลี่ยนช่องไปพลาง นั่งแช่ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็หลับไปพร้อมรีโมตในมือ
แก้ด้วยการ
: สมองซึ่งรับรู้ข่าวสารที่เครียดมากๆ เช่น ข่าวอาชญากรรมหรือภัยพิบัติต่างๆ
มักเครียดตามไปด้วย ซ้ำร้ายการนั่งแช่อยู่หน้าจอทีวีนานๆ จะทำให้รู้สึกเหมือนถูกดูดพลังงานออกไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นดูรายการที่อยากดูจบแล้วก็ควรปิดสวิตช์แล้วไปออกกำลังกายเรียกเหงื่อแทน
หรืออาบน้ำให้สดชื่น คุยกับสมาชิกในครอบครัว หรือเตรียมสิ่งที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้นแทนและเข้านอนไวๆ
จะได้ตื่นเช้าขึ้นและไม่รู้สึกเพลียระหว่างวัน
หลุมพราง # 4นอนไม่เคยพอ
อาการที่เข้าขั้น : อยากให้วันหนึ่งมี 48 ชั่วโมงเพราะงานยุ่งเหลือเกิน กว่าจะได้กินข้าวเย็นก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม เข้านอนตีสามเป็นประจำ แปดโมงเช้าก็ต้องรีบลุกขึ้นแต่งตัวขนาดพยายามเข้านอนให้เร็วขึ้นแล้ว ตาก็ยังไม่ยอมหลับจนกว่านาฬิกาจะบอกเวลาตีสามอีกครั้ง
แก้ด้วยอาการ : ตั้งนาฬิกาชีวิตของตัวเองเสียใหม่ ลองตื่นให้เช้ากว่าเคยแล้วออกไปเดินตากแดดอ่อนๆ
สัก 20 นาทีเพื่อให้ร่างกายได้รับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างเวลากลางวันและกลางคืน
เวลานอนต้องดับไฟให้มืดสนิท กินอาหารเย็นให้เร็วขึ้นและเบาลง อาจจะเป็นสลัดหรือเกาเหลาร้อนๆ
สักชาม ถ้าหิวก็ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ก่อนนอน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment