คุณรู้หรือไม่ว่า อะไรที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จนั้น
มีความเครียดน้อย มีความสุข และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่าคนอื่นๆ?
สาเหตุก็คือ พวกเขารู้ว่า อะไรบ้างคือเรื่องที่สำคัญสำหรับเขา
โดยเฉพาะในเวลา “ตอนเช้า” ที่เขาตื่น สิ่งที่เขาทำสิ่งแรกไม่ใช่เช็คอีเมล์
แต่เป็น “เวลา” ที่เขาให้กับตัวของเขาเอง
และทำธุระส่วนตัวของเขาที่สำคัญก่อนอันอื่น วันนี้เราเลยเอา 10 นิสัย ตอนเช้า ที่ทำให้คนที่ประสบความสำเร็จ ต่างจากคนอื่น มาฝากกัน
มีอะไรบ้าง ไปดู!
1. ตื่นเช้ามาก
แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่า “เวลา” มีค่ามากแค่ไหน เพราะฉะนั้น คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเลือกตื่นเช้าสุดๆ บางคนตี 5 บางคน ตี 4 ครึ่ง หรือจะตี 4 เลยก็มี เพราะนอกจากเขาจะมีเวลามากกว่าคนอื่นๆ แล้ว เขายังมีโอกาสใช้เวลาตอนเช้าทำเรื่องของตัวเอง ก่อนที่จะทำงานอีกด้วย
เพราะฉะนั้น ลองเริ่มตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมวันละ 15 นาทีไปเรื่อยๆ สิ รับรอง คุณจะได้ใช้วันเวลาคุ้มแน่ๆ
แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่า “เวลา” มีค่ามากแค่ไหน เพราะฉะนั้น คนที่ประสบความสำเร็จ เขาจะเลือกตื่นเช้าสุดๆ บางคนตี 5 บางคน ตี 4 ครึ่ง หรือจะตี 4 เลยก็มี เพราะนอกจากเขาจะมีเวลามากกว่าคนอื่นๆ แล้ว เขายังมีโอกาสใช้เวลาตอนเช้าทำเรื่องของตัวเอง ก่อนที่จะทำงานอีกด้วย
เพราะฉะนั้น ลองเริ่มตื่นเช้าขึ้นกว่าเดิมวันละ 15 นาทีไปเรื่อยๆ สิ รับรอง คุณจะได้ใช้วันเวลาคุ้มแน่ๆ
2. ออกกำลังกายเผาผลาญแคลอรี่
และนี่ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นการออกกำลังกายหักโหม หรือเผาผลาญมากๆ เท่านั้น เพียงการเล่นโยคะ ยืดเส้นสายก็ทำได้เช่นกัน และนี่คือสิ่งที่ Christies ซึ่งเป็น CEO ของ Steve Murphy ทำมาโดยตลอด เพราะการออกกำลังกายไม่ใช่แค่ทำให้สมองปลอดโปร่ง สุขภาพดีเท่านั้น แต่มันยังให้คุณจัดการกับความเครียดได้ง่ายกว่าด้วย
เพราะฉะนั้น หาเวลาออกกำลังกาย เริ่มต้นจากวันละ 10-15 นาทีในตอนเช้า อาจจะเต้นแอโรบิค หรือวิ่งจอกกิ้งในบริเวณบ้านของคุณ แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้ว
3. ชั่วโมงแห่งพลัง!
แรงบันดาลใจ และแรงกระตุ้น ทำงานไปเรื่อยๆ ก็อาจจะหมดได้ เพราะฉะนั้นคุณจะต้องเติมมันอยู่เรื่อยๆ และนี่คือสิ่งที่คนที่ประสบความสำเร็จทำ ในตอนเช้าเขาจะอ่านหรือฟังบทความ หรือวิดีโอที่เสริมสร้างแรงบันดาลใจ หรือแรงกระตุ้นในการทำงานของเขานั่นเอง
ลองใช้เวลาประมาณ 30 นาทีตอนเช้า อ่านหรือฟังเรื่องราวดีๆ ที่ให้กำลังใจคุณสิ ทั้งวันของคุณก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังเลยล่ะ!
4. จดบันทึกความรู้สึก “ขอบคุณ” ต่อสิ่งที่คุณได้รับ
หลายๆ คนอาจจะรู้สึกว่า ดูแปลกๆ แต่ลองคิดใหม่!
ความสุขไม่ได้มาจากการโหยหาสิ่งที่คุณยังไม่มี แต่มันคือการซาบซึ้งกับสิ่งที่คุณมีแล้ว ได้รับแล้วต่างหากล่ะ และนี่คือสิ่งที่คนที่สำเร็จเขาทำกัน เพื่อสร้างโลกในแง่บวก ให้ทั้งวันในการทำงานของเขานั้นมี “ความสุข”
ในทุกๆ วัน จด 1 สิ่ง ที่คุณรู้สึกขอบคุณเพราะคุณได้มันมา หรือสำเร็จแล้ว แม้เป็นเรื่องเล็กๆ ก็ตาม
5. ถามคำถามกับ “ตัวเอง”
“ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตคุณ คุณยังจะทำสิ่งที่คุณกำลังจะทำในวันนี้หรือไม่”
คำถามนี้เป็นคำถามที่ยาก และถ้าคุณพบว่า คุณตอบว่า “ไม่” หลายครั้งเกินไปในหนึ่งสัปดาห์ คุณต้องเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างแล้วล่ะ
6. ทำเรื่องที่ยากที่สุดก่อน
ในตอนเช้าที่คุณมีพลังงานเต็มถัง มีสมองที่สดชื่น คุณนอนอิ่ม เพราะฉะนั้น การทำงานที่ยากที่สุดก่อน คุณจะมีโอกาสที่จะทำมันสำเร็จลุล่วงได้ง่ายกว่า
ในทุกวัน เลือกงานที่ยากที่สุดเพียง 1 อย่าง แล้วทำมันให้เสร็จก่อนที่คุณจะทานข้าวเช้าเสียด้วยซ้ำ
7. พูดคุยกับคนที่คุณรัก
ไม่ว่างานของคุณจะยุ่งแค่ไหน อย่าลืมใส่ใจคนที่คุณรัก ในตอนเช้า คือเวลาที่ดีในการพูดคุยถามไถ่กับคนที่คุณรัก อาจจะคุยถึงแผนการวันนี้ของแฟนคุณ หรือลูกคุณว่าจะทำอะไรบ้าง บางทีคุณอาจจะตั้งไว้ 1 วันต่ออาทิตย์ที่คุณจะออกไปทานข้าวเช้าในร้านใกล้บ้าน และนี่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรักอยู่ยืดแน่นอน
8. วางแผนงานและกลยุทธ์
ถ้าคุณไม่ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย วางแผนในหัวว่าวันนี้คุณจะทำอะไรบ้าง คุณจะไม่รู้เลยว่า คุณจะเดินไปถูกทางหรือไม่ คุณจะสำเร็จเป้าหมายระยะสั้นที่คุณตั้งไว้หรือไม่ เพราะฉะนั้น ลองใช้เวลาราว 10 นาทีวางแผนดู มันจะทำให้คุณควบคุมเวลาในหนึ่งวันของคุณได้ดีขึ้น เชื่อสิ!
9. นั่งสมาธิ เคลียร์หัวให้โล่ง
ทำใจให้สงบ ให้ความเงียบและสันติจากภายในเกิดขึ้น ใช้เวลาไม่กี่นาทีในการนั่งสมาธิ หรือสวดมนต์ วิธีนี้จะช่วยคุณรับมือกับความเครียดที่มีอยู่ หรือกำลังจะมีในแต่ละวันได้ดี จำไว้ว่า 90% ของโรคต่างๆ เกิดจากความเครียด เพราะฉะนั้น หยุดซักนิด แล้วตั้งมั่นที่ลมหายใจของคุณ นั่งสมาธิ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
10. กอดลูกๆ ของคุณ
นี่คือข้อสำหรับคนที่มีลูก มีครอบครัว อย่าให้คุณต้องกลายเป็นพ่อแม่ที่ทำงานหนักจนจำวันเกิดลูกของตัวเองไม่ได้!
ในตอนเช้า ช่วยลูกคุณจัดการตัวเองก่อนไปโรงเรียน เรื่องแต่งตัว อาหารเช้า และกอดเขาก่อนส่งไปโรงเรียน นี่จะเป็นการสร้างสายใยในครอบครัวของคุณได้ดีมากๆ เลยทีเดียว
ที่มา
http://www.kiitdoo.com, https://blog.eduzones.com/rangsit/136604
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment