โลกหมุนได้ด้วยความรัก และพินาศย่อยยับก็ด้วยความชัง...ความรักจะช่วยปะชุนและถักทอส่วนที่ขาดแหว่ง ให้เต็มครบ ขณะที่ความชังจะคอยยื้อผลาญ ยื้อกระชาก สิ่งที่มีให้ยิ่งขาดออกจากกัน ทั้งโลกหรือชีวิต จึงต้องการความรักเป็นสิ่งเชื่อมประสาน
ชีวิตใครคนใดคนหนึ่ง ::
ความ รักจะทำให้เขาอิ่มเต็มในตัวเอง มีความนับถือตนเอง ภาคภูมิใจในตนเอง และความรัก (ตัวเอง) จะชักนำให้เขาทำแต่สิ่งที่เป็นคุณประโยชน์ต่อชีวิต ไม่นำชีวิตให้เขวไปในทางเสียหาย
ชีวิตคู่ ::
ความรักจะทำให้เรารู้จัก "หนักนิดเบาหน่อย" รู้จักแบ่ง รู้จักให้ รู้จักอดใจที่ต้องเผชิญกับสิ่งไม่อยาก
ชีวิตครอบครัว ::
ความ รักจะทำให้เยื่อใยของความเป็นพ่อ แม่ ลูกหรือความเป็นพี่เป็นน้องเหนียวแน่น เป็นแกนให้คนซึ่งแตกต่างกันได้ยึดเกาะ และรู้สึกว่าเรามีอะไรบางอย่างร่วมกันอยู่ หรือที่คนทั่วๆ ไปสัมผัสได้ผ่านคำว่า "สายเลือดเดียวกัน"
คนร่วมสังคม ::
ความ รักจะทำให้เรารู้จักเห็นอกเห็นใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา และเกิดการร่วมทุกข์ร่วมสุข คำนึงถึงคนส่วนใหญ่และความถูกต้องเป็นสำคัญ ความถูกใจส่วนตัวเอาไว้ทีหลัง จึงเกิดการประนีประนอมและยอมรับในความแตกต่างหลากหลาย ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นปกติสุข
ไม่มีความราบรื่นใดเทียบได้เท่ากับ "การเป็นที่รัก" ของคนอื่นๆ มี 10 สิ่งที่คนอื่นๆ จะรักคุณได้ง่ายขึ้น หากคุณมีและทำในสิ่งเหล่านี้ นั่นคือ
1. รอยยิ้มจากใจของคุณ
เหมือน ต้นไม้มีดอกประดับต้น ทั้งคนทั้งผึ้งต่างก็อยากจะอยู่ใกล้ๆ รอยยิ้มจึงเป็นความสดใส สวยงาม ที่ต้องมีไว้ดุจเครื่องประดับและเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจคน ตลอดจนเป็นเครื่องหมายของความผ่อนคลาย ทำให้คนอื่นสบายใจที่จะได้อยู่ใกล้ๆ โดยที่รอยยิ้มนั้น ต้องผลิดอกออกผลมาจากความสดใสและความจริงใจไม่ใช่แสร้งยิ้ม เพราะคนที่เห็นรอยยิ้มย่อมทราบดีว่าเป็นยิ้มที่มาจากความรู้สึก ยิ้มตามมารยาท หรือฝืนยิ้ม
2. วาจาที่เปี่ยมความสัตย์ของคุณ
ความ เป็นคนพูดจริง พูดดี พูดแล้วเชื่อถือได้ พูดไม่ไร้สาระ พูดอย่างไม่เชือดเฉือน เหน็บแนม เป็นอีกสิ่งที่ทำให้คนที่อยู่ด้วยสบายใจ เชื่อใจ ผ่อนคลาย และเปิดเผย ยิ่งอยู่ด้วยนานเท่าไร ก็จะยิ่งเทใจให้มากเท่านั้น
3. สีหน้าที่ไม่ซ่อนอะไรไว้ข้างหลังของคุณ
มีคำกล่าวว่า "รู้หน้าไม่รู้ใจ" เพื่อเตือนให้คนพินิจพิจารณาการคบหากับผู้อื่นให้ถ้วนถี่ บางคนหน้าตาดีแต่ใจทราม หน้ากับใจอาจไม่สัมพันธ์กันในแง่ความงาม แต่ในแง่ของความรู้สึก มันสัมพันธ์กันเสมอ เพราะกล้ามเนื้อบนใบหน้าทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ เป็นไปตามภาวะอารมณ์หรือความรู้สึกจริงๆ ในใจคน ยกเว้นพวกเซียนแห่งการเสแสร้งเท่านั้นที่จะสามารถ "สวมหน้ากาก" คือ ปรับเปลี่ยนสีหน้าเพื่อซ่อนอารมณ์จริงๆ ไว้ข้างหลัง ซึ่งแน่นอน คนเช่นนี้ไม่มีใครรัก และไม่มีใครอยากคบ จึงต้องฝึกตนไม่เป็นคนชักสีหน้า มีความจริงใจ ผ่าเผย เปิดใจ ไม่หน้าอย่างใจอย่าง
4. ภาษากายที่สะท้อนความในใจของคุณ
บาง คนพูดดี สีหน้าปลอดโปร่ง ยิ้มหวาน แต่ซ่อนอาการไว้ที่การ กอดอก ระยะห่างของการยืนคุย มือที่กำเกร็ง ตาที่บอกความเบื่อหน่ายออกมา ฯลฯ พึงระลึกไว้ว่า มือไม้แขนขา สีหน้า ท่าที ล้วนมีความหมายที่ทำให้คนอื่นสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร ความเป็นคนง่ายๆ ความเป็นคนระวังระไว หรือพวกไว้ตัว
5. อารมณ์อันคงที่ของคุณ
ไม่ มีใครรักหรืออยากอยู่ใกล้คนที่อารมณ์แกว่งไกวจนคาดเดาไม่ได้ว่าจะระเบิดปึง ปังเมื่อไร หรืออารมณ์ดีตอนไหน วินาทีที่อารมณ์ดีๆ อย่างนี้จะคงที่ไปจนถึงเมื่อไร ไม่มีใครรู้สึกปลอดภัยที่ต้องอยู่กับคนประเภทนี้ หากจำเป็นจะต้องอยู่ด้วย ก็มักจะอยู่ด้วยความกังวล เกร็ง กลัว และขาดความสุข
ฉะนั้น โปรดประคองอารมณ์ของตัวเองให้คงที่ คงเส้นคงวาแน่นอนค่ะ คนเรามีเวลาเดือดดาลหรืออารมณ์เสีย แต่ไม่ใช่เสียทุกวัน วันละหลายๆ ครั้ง และทุกๆ ครั้งคาดเดาไม่ได้ว่าเหตุเกิดจากอะไร หมั่นประคองสติเอาไว้ คอยเตือนตนตั้งแต่อารมณ์เริ่มก่อตัว รู้ทันอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ และคลี่คลายอารมณ์นั้นให้ได้ในที่สุด อย่าเอาอารมณ์เสียๆ ไปกระทบกระแทกคนอื่น แม้ว่าเรื่องที่ทำให้อารมณ์เสียจะเกิดจากคนอื่นก็ตาม หากจะไต่สวนเพื่อพิจารณาความผิดอันเกิดจากการกระทำที่ชวนให้อารมณ์เสีย ก็ให้ไต่สวนโดยไม่มีอารมณ์ (เสียๆ) เข้าไปข้องเกี่ยว อย่างนี้จะทั้งน่ารักและน่านับถือเลยทีเดียว
6. ความรู้ความสามารถของคุณ
คน มีความรู้ความสามารถย่อมเป็นที่พึ่งของคนที่รู้น้อยกว่า หรือหย่อนความสามารถกว่า ซึ่งแปลว่ามีแค่ความรู้ความสามารถไม่พอแต่ต้องมีความเห็นอกเห็นใจ คอยเอาใจใส่ และให้การช่วยเหลือคนอื่นด้วย
7. น้ำใจไมตรีของคุณ
คน เราอยู่ด้วยกัน ต้องมีน้ำจิตน้ำใจต่อกันบ้าง ไม่มีใครรักคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ไม่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ น้ำใจไม่ได้แปลว่าต้องมีวัตถุสิ่งของมาแบ่งปันให้ แต่ยังหมายถึงการช่วยเหลือกันในยามฉุกละหุก การห่วงใยเอาใจใส่ คำพูดที่ดี ที่เป็นกำลังใจ หรือแม้แต่ข้อความสั้นๆ ช่วยจำหรือเติมพลังใจให้ เท่านี้ก็ชื่นใจนักหนาแล้ว
8. ความดีงามในตัวคุณ
รู้จัก ตนเอง รู้จักผู้อื่น รู้จักแบ่งปัน และเคารพในกันและกัน คือความดีงามขั้นพื้นฐานที่จะนำไปสู่ความดีงามในการอยู่ร่วมกันอีกเป็นร้อย เป็นพันข้อ คนที่มีความดีงามในตนเองย่อมดึงดูดคนดีๆ มาอยู่ด้วย เป็นที่รักและเคารพของคนรอบตัว
9. จิตสาธารณะของคุณ
ไม่ ใช่แค่ดีลำพังตน แต่ต้องปรารถนาให้ผู้คนและสังคมได้รับสิ่งดีๆ เพิ่มขึ้นด้วย จึงต้องพร้อมที่จะอุทิศตัวหรือมีส่วนสร้างสังคมที่แข็งแรง ตามกำลังที่ตนจะสนับสนุนได้ ไม่ว่าจะเป็นกำลังทรัพย์ แรง ความรู้คำแนะนำ การมีส่วนร่วม หรือความเอาใจใส่ที่จะแบ่งปันหรือทุ่มเทให้ คนที่มีจิตใจเช่นนี้ ย่อมเป็นที่รักและที่สรรเสริญของทุกๆ คน
10. ความยุติธรรมของคุณ
เรา ต่างเป็นปุถุชนที่อาจเลือกที่รักมักที่ชังได้ แต่ใครก็ตามที่เอาชนะอารมณ์พื้นฐานข้อนี้ได้ด้วยการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกๆ คน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนใกล้ชิด เป็นคนที่ชอบพอหรือไม่ ย่อมได้รับคำชื่นชมและมีคนเคารพรักเป็นอย่างมาก หลายคนเป็นคนดี มีอัธยาศัยไมตรีน่ารัก มีจิตสาธารณะ ทว่าเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่ต้องให้ความเป็นธรรมกลับให้ไม่ได้ มีความโน้มเอียงไปข้างใดอย่างไม่สมเหตุสมผล ความรักความนับถือที่เคยได้รับก็หายหมด คุณคงไม่อยากจะเป็นเช่นนั้นใช่ไหมคะ
ความรัก ไม่ได้มีไว้เพื่อให้ใครรอรับฝ่ายเดียว หากในชีวิตของคุณได้พบใครก็ตามที่มีคุณสมบัติดีๆ ทั้งหลายที่กล่าวไว้นี้ คุณก็ต้อง "ให้ความรักเป็น" หมายถึงคุณยอมรับความดีงามของคนอื่นได้ ยินดีชื่นชม และให้ความเคารพอย่างที่เขาควรได้ นี่คือ "ที่สุดของความน่ารัก" คือการรู้จัก "รักคนอื่นด้วย"
แหล่งที่มา http://hilight.kapook.com/view/34256, First
No comments:
Post a Comment