แค่ลืมตาตื่นก็ยากอยู่แล้ว แถมยังต้องมาทนกับเสียงนาฬิกาปลุกตอนเช้าอีก
เมื่อคิดถึงเรื่องเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะแล้ว ไม่อยากจะพลิกตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำเลยจริง
ๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ก็ต้องมาแต่งหน้าแต่งตัวอีก จะส่งกระจกทีไรก็เห็นขอบตาคล้ำ ๆ
ทุกที เห็นแล้วปวดใจจริง ๆ ซึ่งกว่าจะได้ออกจากบ้านก็เหลือเวลาไม่เท่าไหร่แล้ว ไปจะทำงานก็ต้องปวดหัวกับเรื่องรถติดอีก
แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ชีวิตของคนธรรมดานี่ ไม่ธรรมดาจริง ๆ เลยนะ
วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำเรื่องราวดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณเตรียมตัวตั้งรับกับเช้าวันใหม่ที่แสนจะยุ่งยาก มาบอกกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยนำเรื่องราวดี ๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณเตรียมตัวตั้งรับกับเช้าวันใหม่ที่แสนจะยุ่งยาก มาบอกกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ
1. เตรียมชุดที่จะใส่ในวันพรุ่งนี้ไว้ทุกครั้ง
สิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลามากที่สุด และต้องมาตอกบัตรที่บริษัทแบบฉิวเฉียด กึ่ง ๆ สาย ทุกครั้ง นั่นก็เป็นเพราะคุณมัวแต่เสียเวลาไปกับการค้นตู้เสื้อผ้านะสิ และคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดสีอะไรดีนะ (ยังไม่รวมเวลาแต่งหน้านะ) กว่าจะตัดสินใจได้ก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้อีก ก็ลองเปลี่ยนวิธีใหม่นะคะ โดยคิดไว้ซะตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยว่าพรุ่งนี้คุณจะใส่อะไรไปทำงาน ทั้งเสื้อผ้า ทั้งกระโปรง ลายไหนสีไหนก็คิดให้เสร็จ แล้วเอามาแขวนไว้หน้าตู้ ครั้งต่อไปก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนปวดหัวเลือกเสื้อผ้าทุกเช้าอีก
2. เตรียมของใช้ให้พร้อม
ทั้งกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ สมุดจดตารางนัดหมาย ฯลฯ สิ่งสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่คุณจะต้องใช้ หยิบใส่กระเป๋าให้พร้อม และถ้าในคืนนั้นคุณต้องชาร์จแบตมือถือทิ้งไว้ทั้งคืนละก็ คุณก็ควรแปะโน้ตเตือนความจำไว้ที่กระเป๋าด้วยนะคะ และก่อนจะสะพายกระเป๋าออกจากบ้านก็ลองเช็คของในกระเป๋าดูอีกครั้งว่า คุณมีของครบแล้วหรือยัง ถ้าเช็คดูจนมั่นใจแล้วก็ออกไปทำงานได้เลย อ้อ! อย่าลืมกุญแจบ้าน หรือกุญแจรถนะคะ จะหาว่าเราไม่เตือน
3. เตรียมอาหารให้ท้องอิ่ม
เราไม่ได้ให้คุณทำอาหาร แล้วกินเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนนะคะ แต่เราให้คุณเตรียมอาหารไว้สำหรับวันถัดไปต่างหาก คุณอาจจะแพ็คใส่กล่องข้าว หรือถุงแล้วนำไปแช่ตู้เย็น วันรุ่งขึ้นก็แค่นำอาหารไปเวฟ หรืออุ่นอาหารให้สุก แค่นี้ก็ประหยัดเวลาทำอาหารไปได้อีกเยอะเลย และที่สำคัญคุณก็ไม่ต้องตื่นเช้ามาทำอาหารในสภาพหลับ ๆ ตื่น ๆ อีกต่อไป
สิ่งที่ทำให้คุณเสียเวลามากที่สุด และต้องมาตอกบัตรที่บริษัทแบบฉิวเฉียด กึ่ง ๆ สาย ทุกครั้ง นั่นก็เป็นเพราะคุณมัวแต่เสียเวลาไปกับการค้นตู้เสื้อผ้านะสิ และคิดว่าวันนี้จะใส่ชุดสีอะไรดีนะ (ยังไม่รวมเวลาแต่งหน้านะ) กว่าจะตัดสินใจได้ก็ปาเข้าไปเป็นชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่อยากเป็นแบบนี้อีก ก็ลองเปลี่ยนวิธีใหม่นะคะ โดยคิดไว้ซะตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยว่าพรุ่งนี้คุณจะใส่อะไรไปทำงาน ทั้งเสื้อผ้า ทั้งกระโปรง ลายไหนสีไหนก็คิดให้เสร็จ แล้วเอามาแขวนไว้หน้าตู้ ครั้งต่อไปก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลายืนปวดหัวเลือกเสื้อผ้าทุกเช้าอีก
2. เตรียมของใช้ให้พร้อม
ทั้งกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ สมุดจดตารางนัดหมาย ฯลฯ สิ่งสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ที่คุณจะต้องใช้ หยิบใส่กระเป๋าให้พร้อม และถ้าในคืนนั้นคุณต้องชาร์จแบตมือถือทิ้งไว้ทั้งคืนละก็ คุณก็ควรแปะโน้ตเตือนความจำไว้ที่กระเป๋าด้วยนะคะ และก่อนจะสะพายกระเป๋าออกจากบ้านก็ลองเช็คของในกระเป๋าดูอีกครั้งว่า คุณมีของครบแล้วหรือยัง ถ้าเช็คดูจนมั่นใจแล้วก็ออกไปทำงานได้เลย อ้อ! อย่าลืมกุญแจบ้าน หรือกุญแจรถนะคะ จะหาว่าเราไม่เตือน
3. เตรียมอาหารให้ท้องอิ่ม
เราไม่ได้ให้คุณทำอาหาร แล้วกินเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนนะคะ แต่เราให้คุณเตรียมอาหารไว้สำหรับวันถัดไปต่างหาก คุณอาจจะแพ็คใส่กล่องข้าว หรือถุงแล้วนำไปแช่ตู้เย็น วันรุ่งขึ้นก็แค่นำอาหารไปเวฟ หรืออุ่นอาหารให้สุก แค่นี้ก็ประหยัดเวลาทำอาหารไปได้อีกเยอะเลย และที่สำคัญคุณก็ไม่ต้องตื่นเช้ามาทำอาหารในสภาพหลับ ๆ ตื่น ๆ อีกต่อไป
4. แปะโน้ตสำคัญเอาไว้
ถ้าวันนี้คุณติดประชุม หรือมีนัดทานข้าวกับลูกค้า หรือจะออกไปท่องราตรีกับเพื่อน ๆ ก็ควรติดข้อความบอกที่บ้านของคุณไว้หน่อยก็ดีนะคะ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องมานั่งรอคุณกลับบ้านดึก ๆ อย่างเช่น คืนนี้กลับดึกนะ มีนัดกับลูกค้า หรือวันนี้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ต้องทานข้าว หรือสารพัดข้อความที่คุณอยากจะบอกกับคนในบ้าน ก็ติดเอาไว้ในที่ที่พวกเขาเห็นได้ง่าย ๆ อย่างเช่น ตู้เย็น หรือบนกระดาน เพียงแค่นี้พวกเขาก็จะรู้แล้วว่า วันนี้คุณจะไปทำอะไรที่ไหน ถ้าหากคุณกลับผิดเวลา พวกเขาก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงยังไงล่ะคะ
5. ทำอาหารเช้าได้ง่าย ๆ นิดเดียว
บางคนอาจจะละเลยมื้อสำคัญ อย่างเช่นอาหารมื้อเช้าไป เพราะต้องรีบออกไปทำงาน เลยไม่อยากเสียเวลากินข้าวที่บ้าน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนวิธีกินอาหารดีไหมคะ แค่เปลี่ยนไปทานอาหารกินง่ายให้พลังงานสูงอย่างเช่น กล้วย ขนมปังโฮลวีต ซีเรียล กันดีกว่าไหม ทั้งประหยัดเวลา ทั้งได้คุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งคุณจะได้ไม่พลาดมื้อสำคัญของวันด้วย
6. บันทึกรายรับ - รายจ่ายประจำวัน
ถ้าไม่อยากจะเจออาการสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจละก็ คุณควรวางแผนไว้เลยว่า ในหนึ่งเดือนคุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และในแต่ละวันคุณจะใช้จ่ายเงินวันละเท่าไหร่ เมื่อถึงตอนเช้า คุณก็แค่ก็เตรียมเงินให้เท่ากับจำนวนที่คุณตั้งไว้ และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้เงินเกินงบ แค่นี้ก็คุณก็มีเงินเก็บได้ไม่ยาก และนี่ยังเป็นวิธีที่จะช่วยคุณควบคุมการใช้เงินได้ดีอีกด้วย ส่วนเงินที่เหลือในแต่ละวัน คุณจะเอาไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ หรือจะเก็บเข้าธนาคารสะสมดอกเบี้ยเล่น ๆ ก็ได้ (แต่แนะนำว่าวิธีหลังดีกว่านะคะ)
คราวนี้คุณก็ทราบเคล็ดลับดี ๆ กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ชีวิตของคุณจะยุ่งยาก หรือวุ่นวายสักแค่ไหน แต่ถ้าคุณมีวิธีบริหารเวลา และรู้จักวิธีตั้งรับดี ๆ ละก็ ต่อให้เป็นเรื่องยากแค่ไหน คุณก็สามารถเปลี่ยนเรื่องยาก ๆ เหล่านั้น ให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ภายในพริบตาเลยล่ะค่ะ คราวนี้คุณก็สามารถตื่นมาพร้อมรับแสงวันใหม่ได้โดยไม่ต้องปวดหัวกับเรื่อง จุกจิกกวนใจอีกแล้วล่ะ
ถ้าวันนี้คุณติดประชุม หรือมีนัดทานข้าวกับลูกค้า หรือจะออกไปท่องราตรีกับเพื่อน ๆ ก็ควรติดข้อความบอกที่บ้านของคุณไว้หน่อยก็ดีนะคะ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องมานั่งรอคุณกลับบ้านดึก ๆ อย่างเช่น คืนนี้กลับดึกนะ มีนัดกับลูกค้า หรือวันนี้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ต้องทานข้าว หรือสารพัดข้อความที่คุณอยากจะบอกกับคนในบ้าน ก็ติดเอาไว้ในที่ที่พวกเขาเห็นได้ง่าย ๆ อย่างเช่น ตู้เย็น หรือบนกระดาน เพียงแค่นี้พวกเขาก็จะรู้แล้วว่า วันนี้คุณจะไปทำอะไรที่ไหน ถ้าหากคุณกลับผิดเวลา พวกเขาก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงยังไงล่ะคะ
5. ทำอาหารเช้าได้ง่าย ๆ นิดเดียว
บางคนอาจจะละเลยมื้อสำคัญ อย่างเช่นอาหารมื้อเช้าไป เพราะต้องรีบออกไปทำงาน เลยไม่อยากเสียเวลากินข้าวที่บ้าน ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนวิธีกินอาหารดีไหมคะ แค่เปลี่ยนไปทานอาหารกินง่ายให้พลังงานสูงอย่างเช่น กล้วย ขนมปังโฮลวีต ซีเรียล กันดีกว่าไหม ทั้งประหยัดเวลา ทั้งได้คุณค่าทางโภชนาการ อีกทั้งคุณจะได้ไม่พลาดมื้อสำคัญของวันด้วย
6. บันทึกรายรับ - รายจ่ายประจำวัน
ถ้าไม่อยากจะเจออาการสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจละก็ คุณควรวางแผนไว้เลยว่า ในหนึ่งเดือนคุณมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และในแต่ละวันคุณจะใช้จ่ายเงินวันละเท่าไหร่ เมื่อถึงตอนเช้า คุณก็แค่ก็เตรียมเงินให้เท่ากับจำนวนที่คุณตั้งไว้ และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้เงินเกินงบ แค่นี้ก็คุณก็มีเงินเก็บได้ไม่ยาก และนี่ยังเป็นวิธีที่จะช่วยคุณควบคุมการใช้เงินได้ดีอีกด้วย ส่วนเงินที่เหลือในแต่ละวัน คุณจะเอาไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ หรือจะเก็บเข้าธนาคารสะสมดอกเบี้ยเล่น ๆ ก็ได้ (แต่แนะนำว่าวิธีหลังดีกว่านะคะ)
คราวนี้คุณก็ทราบเคล็ดลับดี ๆ กันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปฏิบัติกันด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ชีวิตของคุณจะยุ่งยาก หรือวุ่นวายสักแค่ไหน แต่ถ้าคุณมีวิธีบริหารเวลา และรู้จักวิธีตั้งรับดี ๆ ละก็ ต่อให้เป็นเรื่องยากแค่ไหน คุณก็สามารถเปลี่ยนเรื่องยาก ๆ เหล่านั้น ให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้ภายในพริบตาเลยล่ะค่ะ คราวนี้คุณก็สามารถตื่นมาพร้อมรับแสงวันใหม่ได้โดยไม่ต้องปวดหัวกับเรื่อง จุกจิกกวนใจอีกแล้วล่ะ
แหล่งที่มา http://health.kapook.com/view45641.html
No comments:
Post a Comment