คำเหล่านี้มีพลัง มีลักษณะคล้ายๆกันคือ สร้างขึ้นได้ง่ายแต่สูญสลายได้ง่ายยิ่งกว่าง่าย หลายคนจึงพบว่าเพียงข้ามคืนสิ่งสวยงามที่คิดไว้ก็กลายร่างเป็นหลุมดำ ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ วิธีที่ดีที่สุดคือการสร้างมันให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ ทำได้บ่อยๆ การจะทำเช่นนั้นได้คุณต้องใช้ทั้งร่างกาย จิตใจ และสมอง และนี่คือวิธีง่ายๆสำหรับการสร้างและรักษากำลังใจไว้ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ
1.ก่อนอื่นต้องพยายามหาสาเหตุเสียก่อนว่า การที่เราไม่มีกำลังใจนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร
แล้วพยายามหาทางปรับปรุงแก้ไขและยอมรับเสีย และเช่นกันลองคิดดูว่าสิ่งใดที่คิดแล้วทำให้รู้สึกมีกำลังใจทันที
บางคนอาจจะเป็นครอบครัว ลูก คนรัก
2.อย่าคิดหรืออย่ามองว่าตัวเองเป็นคนมีปัญหาไร้ความสามารถ
คนอื่นที่เขามีปัญหาไร้ความสามารถมากกว่าเราก็ยังมี ตัวเราควรพยายามตั้งใจกระทำใหม่
เหนือปัญหายังมีคนมีปัญหามากกว่าเสมอ แม้บางทีจะดูเป็นการปลอบตัวเอง
แต่เชื่อสิว่ามันได้ผลจริง
3.อย่ามัวหมกมุ่นอยู่คนเดียว ลองพูดคุยกับผู้ที่เราไว้ใจหรือเชื่อถือ อย่างน้อยก็เป็นการระบายความอัดอั้นตันใจของเราได้และเราอาจจะได้รับคำแนะนำ
ชี้แนะ จากเขาผู้นั้นได้
4.มองโลกในแง่ดี พยายามทำจิตใจให้สดชื่น อะไรต่างๆ ก็จะดูดีขึ้น อย่าตัดสินคนอื่นจากจุดที่เรายืนและอย่านำตัวเองไปเปรียบเทียบกับใคร
เพราะมันไม่จำเป็นและมันไม่สามารถเปรียบเทียบได้เลย
5.พยายามอย่าปล่อยให้มีเวลาว่างมากเกินไป ควรหางานอดิเรกทำ เพราะเราอาจจะสนุกไปกับงานเหล่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การอ่านหนังสือดีๆ ล้วนช่วยให้ใช้เวลาได้เกิดประโยชน์และช่วยผ่อนคลายได้ด้วย
6.เมื่อตื่นนอน ควรรีบลุกจากที่นอนทันที ควรมีแผนการทำงานของแต่ละวัน และทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง ตั้งใจที่จะกระทำกิจกรรมต่างๆ อย่างจริงจัง การมีแผนทำให้คุณไม่ต้องคิด เพราะการคิดไม่ออกตอนเช้าจะทำให้วันนั้นทั้งวันไม่ใช่วันดีแน่นอน
7.เมื่อกลับบ้านคุณควรมีแผนการดีๆ สำหรับแต่ละวัน
ทั้งเป้าหมายเล็กๆในการทำงานก่อนนอน หรือการฉลองเล็กๆน้อยๆ เช่น ขนมหวาน อาหารโปรด
หรือหนังแผ่นที่รอดูมานาน การมีเป้าหมายทำให้คุณจะยังคงรักษาพลังงานให้เหลือจนถึงก่อนนอนได้
ไม่เชื่อลองคิดถึงตอนที่นัดเจอเพื่อนๆ ตอนเย็นหลังเลิกงานเราจะไม่ค่อยรู้สึกเหนื่อย
แต่พอตรงดิ่งกลับบ้านทันที เมื่อถึงบ้านกลับรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง นั่นเป็นเพราะคุณโปรแกรมสมองไว้ว่างานวันนี้หมดสิ้นแล้ว
พลังงานของคุณจึงหมดทันที
แหล่งที่มา http://www.oknation.net/blog/just7/2013/05/25/entry-1
No comments:
Post a Comment