Sunday, June 23, 2013

ทายนิสัย จากเสียงหัวเราะ




            เสียงหัวเราะแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกคะ ลองมาดูกันว่าหัวเราะแบบไหน นิสัยเป็นอย่างไรกันนะ

            หัวเราะเสียงดังลั่น : คนที่หัวเราะเสียงดังลั่น ชนิดที่เรียกว่าได้ยินไปสิบบ้านแปดบ้านนั้น ผลจากการวิจัยบอกว่าเป็นคนที่จริงใจ มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว จะเรียกว่ากล้าได้กล้าเสียก็ไม่ผิดนัก เมื่อมีเรื่องคอขาดบาดตายมาให้ตัดสินใจก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง และเป็นคนที่กระตือรือร้นสูง มักมีงานนั่นงานนี่มาให้ทำอยู่เสมอ เสียแต่ว่าไม่มีความรอบคอบเท่าที่ควร

            หัวเราะเสียงเบา : สำหรับคนที่หัวเราะเสียงเบา ๆ นุ่ม ๆ ทั้งหลาย บอกถึงนิสัยที่เป็นคนที่มีความระมัดระวังตัวเองสูง ค่อนข้างมีความคิดซับซ้อนอยู่ในใจลึก ๆ และมีความต้องการที่จะให้คนรอบข้างสนใจและรู้สึกนิยมชอบพอในตนเอง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ละเอียดถี่ถ้วนอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันก็เป็นบุคคลที่เชื่อถือได้และน้ำใจดี พึ่งพาได้ในยามที่ต้องการความช่วยเหลือ

            หัวเราะเสียงสูง : คนที่มีเสียงหัวเราะสูง ๆ นั้น บ่งบอกว่าเป็นคนมีจิตใจกระตือรือร้นอยู่เสมอ เรียกว่ามีไฟอยู่ตลอดเวลา สนใจเรียนรู้เรื่องแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทุกประการ โดยเฉพาะเมื่อได้รวมกลุ่มกับคนหนุ่มคนสาว จะมีพลังในการสร้างสรรค์สูง มักทำในเรื่องสร้างความประหลาดใจต่อผู้อื่นอยู่เสมอ ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนจิตใจดี ไว้เนื้อเชื่อใจคนทุกคน และยังเป็นคนที่มีคุณธรรมในจิตใจสูงส่งอีกด้วย จะไม่ยอมทำในเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมโดยเด็ดขาด

            หัวเราะเสียงหนักแน่นสม่ำเสมอ : มักเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบอยู่เสมอ คาดหวังเพียงสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน ที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจสูงเพื่อผลของงานที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีจินตนาการแปลก ๆ ใหม่ ๆ เสมอ ซึ่งสร้างความสนใจให้กับคนอื่นได้มากทีเดียว ทั้งยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน ที่ช่วยผ่อนคลายความเป็นคนเอาจริงเอาจังกับทุกเรื่อง ไม่ให้กลายเป็นคนซีเรียส จนใคร ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ ให้ดูน่ารักขึ้นอีกมาก

            หัวเราะเสียงต่ำ : ผู้ที่เสียงหัวเราะเป็นเสียงในโทนต่ำนั้น อุปนิสัยค่อนข้างเป็นคนเจ้าชู้เอาเรื่องทีเดียว ทั้งยังเป็นคนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความรักมากอีกด้วย ชีวิตมักวนเวียนอยู่กับเรื่องเหล่านี้เป็นส่วนใหญ่ ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่พูดจาหว่านล้อมคนได้เก่ง เข้ากับผู้คนได้ง่าย มีแนวคิดที่ลึกซึ้งน่าเลื่อมใสศรัทธา และมักเผยแพร่อิทธิพลความคิดของตนได้เสมอ ซึ่งสิ่งนี้เองที่จะทำให้คนมารุมล้อมอยู่บ่อย ๆ ด้วยความนิยมรักใคร่

            หัวเราะเสียงแห้ง : สำหรับคนที่เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ไม่มีชีวิตชีวานั้น บ่งบอกถึงนิสัยการเป็นคนชอบต่อสู้และมีชีวิตอยู่ในโลกของความจริง ไม่มีอารมณ์เพ้อฝันในจิตใจเอาเสียเลย แต่ว่าในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ละเอียดลึกซึ้งทีเดียว มองคนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ใครที่คิดจะมาหลอกลวงอะไรไม่มีทางได้ผล แต่ว่าเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือ และเรียกร้องสิทธิเพื่อคนที่ตกทุกข์ได้ยาก มักมีชีวิตง่าย ๆ สมถะ คบหาคนด้วยเรื่องของจิตใจ มากกว่าฐานะ หรือชื่อเสียงของคน ๆ นั้น

            หัวเราะแล้วน้ำตาไหล : ส่วนคนที่เวลาหัวเราะแล้วจะมีน้ำตาไหลนั้น บ่งบอกถึงนิสัยของการเป็นคนที่มีอุดมคติหรืออุดมการณ์นั่นเองมักมีจิตใจที่ ชอบช่วยเหลือคนอื่นอย่างมาก เป็นคนเปิดเผย ร่าเริง ชื่นชมชีวิต รักทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่ว่าจะดีหรือเลว เรียกว่าเป็นที่ศรัทธาต่อการดำรงชีวิตที่ไม่ผิดเลยทีเดียว แต่ว่าถ้าต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่มีความซับซ้อนสูง ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้ด้วยดี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีโลกส่วนตัว และยังหวงแหนโลกส่วนตัวของตนเอามาก ๆ

            หัวเราะหลายเสียง : ข้อนี้หมายถึงคนที่มีเสียงหัวเราะหลายแบบอยู่ในตัวเอง คือ สามารถหัวเราะเป็นเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ได้อย่างน่าแปลกใจ ซึ่งบ่งบอกถึงการเป็นคนที่มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ได้ดี เอาใจคนรอบข้างเก่งอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นบุคลิกที่สามารถเข้ากับใครได้ง่าย ๆ ไม่ถือตัว หรือมีฟอร์มใด ๆ ทั้งสิ้น จะทำงานในหน้าที่บริหารหรือจัดการประสานงานได้ดี


แหล่งที่มา http://horoscope.kapook.com/view9091.html, ข้อมูลจาก Forward Mail
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/496592296383634217/

Saturday, June 22, 2013

ทายนิสัยจากมือถือที่ใช้


     
 มือถือแบบจอขาวดำ

            ใครใช้มือถือแบบนี้เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ รักอิสระ ชอบธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ มีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล แต่มักจะคิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นอยู่เสมอ มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะทุกประเภท ทั้งการแสดง วาดรูป หรืองานขีด ๆ เขียน ๆ เนี่ยถนัดนัก ใครมีอะไรให้ช่วยเหลือทางด้านศิลปะ ก็ไหว้วานกันได้เลย

     
 มือถือแบบ PCT

            จัดเป็นมือถือรุ่นจิ๋วที่สุด และก็ประหยัดกระเป๋าเงินพ่อแม่มากที่สุดเหมือนกัน ใครที่ใช้มือถือแบบนี้จัดว่าเป็นคนหัวอ่อนอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ทุกอย่างโดยไม่ มีง ขี้เกรงใจ ชอบเก็บความรู้สึก แอบรักแอบปลื้ม หรือรู้สึกอะไรก็ไม่ยอมบอกใคร แถมขี้น้อยใจเป็นที่สุด คนใกล้ชิดต้องคอยเอาใจใส่กันหน่อยแล้วล่ะ

     
 มือถือแบบจอสี

            ดูเผิน ๆ เป็นคนสนุกสนาน มีมุขตลก เฮฮาปาจิงโกะตลอดเวลาเข้ากับสีสันของจอมือถือซะจริงๆ แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนเจ้าอารมณ์ทีเดียวนะ อย่าไปขัดใจเค้าเข้าล่ะ นอกจากนั้นยังเป็นคนติดกลุ่มติดเพื่อน วันหยุดเมื่อไหร่ เป็นต้องโทรตามเพื่อนๆ รวมกลุ่มกันไปเที่ยวตลอด ขี้เหงาจริงๆเลยนะเนี่ย เอ้าเพื่อนๆก็เอาใจเค้าหน่อยก็แล้วกัน

     
 มือถือแบบเล่นเกมส์โดยเฉพาะ

            คนนี้คิดอะไรไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเค้าเรื่องความคิดสร้างสรรค์เป็นที่หนึ่ง ใครจะขอไอเดียทำเซอร์ไพรส์หวานใจ มาถามคนนี้ได้ หัวใจพวกเขาเหมือนเด็กน้อยที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ มองโลกในแง่ดีตลอด แต่เวลาโกรธขึ้นมา อารมณ์รุนแรงเชียวล่ะ อย่าไปทำให้โมโหนะ เดี๋ยวจะยุ่ง

     
 มือถือแบบถ่ายรูปได้

            รายนี้อินเทรนด์ตามแบบฉบับเด็กแนวเลยล่ะ เทรนด์แฟชั่นใหม่เป็นยังไงเค้ารู้หมด ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เชื่อมั่นในตัวเองมากถ้าคิดอะไร จะต้องเอาอย่างใจให้ได้ หากจะตกลงอะไรกับเค้า เพื่อนๆอย่าเพิ่งปวดเฮ้ดก็แล้วกัน ค่อยๆ หว่านล้อม ใช้เหตุผลคุยดีๆก็แล้วกัน อ้อ แต่เรื่องหัวใจลองรักใครแล้ว รักจริงเลยล่ะ แถมยังมีอารมณ์โรแมนติกบ่อยๆ ซะด้วย อูยยยย....น่าอิจฉาหวานใจของคนแบบนี้จริง ๆ

     
 มือถือแบบจอระบบสัมผัส

            ไฮเทคโนโลยีแบบนี้ บอกได้เลยว่าออกจะเก็บตัวอยู่นะ ไม่ชอบสุงสิงกับเพื่อนเท่าไหร่ พักกลางวันทีไรไม่ค่อยมาเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆเค้าหรอก เป็นคนทะเยอทะยาน ไม่ต้องการเป็นที่สองรองใคร ต้องเป็นที่ 1 ตลอด เพราะฉะนั้นเรื่องเรียนจึงเซียนอย่าบอกใครเลย ใครมีเพื่อนแบบนี้ หากมีปัญหาเรื่องการเรียน ก็เดินเข้าไปหาได้เลย เค้าเป็นที่พึ่งได้อย่างดีเชียวล่ะ

แหล่งที่มา  http://horoscope.kapook.com/view10564.html, ข้อมูลจาก Forward Mail  


Saturday, June 8, 2013

10 วิธี รักษาอาการอกหัก




"อกหัก" อาการที่ไม่ได้เจ็บบริเวณหัวใจ แต่กลับปวดที่ความรู้สึก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนสถานะของคนรู้ใจมาเป็นคนรู้จัก และไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา แถมความรุนแรงของอาการก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ตามทฤษฎีที่ว่ายิ่งรักมาก...ก็ยิ่งเจ็บมาก -_- และสำหรับคนที่อยู่ในห้วงเวลา "อกหัก" แต่ยังหาทางออกไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูกันดีกว่าว่า 10 วิธีรักษาอาการอกช้ำ ๆ มีอะไรบ้าง

     
1. ตัดทุกการสื่อสาร : ไม่ว่าเป็นโทรศัพท์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ตัดออกให้หมด รู้ว่าเป็นเรื่องที่ทำยากที่สุด แต่มันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณเช่นกัน ลองถามตัวเองว่าคุณจะทำใจได้หรือเปล่า หากเปิดไปเจอรูปเขากำลังมีความสุข แต่ตัวคุณกลับนั่งจมอยู่กับกองน้ำตา ทำไมไม่กลับมาเป็นคนเดิม คนที่ยิ้มร่าเริงแจ่มใสให้กับทุกเรื่อง และอย่าลืมว่าก่อนจะเจอเขาคุณก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ ในวันนี้ที่เขาจากไป ทำไมจะกลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้งไม่ได้ล่ะ (จริงไหม)

     
2. ร้องไห้ให้พอ : กำหนดเวลาเอาไว้ว่าให้เวลาตัวเองร้องไห้สักเท่าไหร่ สามวัน หนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน แล้วร้องไห้เสียใจฟูมฟายมันให้เต็มที่ ปลดปล่อยความเศร้า ความอ่อนแอออกมาให้หมด จากนั้นเมื่อครบกำหนดก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แล้วคิดเสมอว่าจะเสียเวลาร้องไห้ให้กับคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเราทำไม เก็บใจไว้ให้คนที่รักเราจริง ๆ ดีกว่า

     
3. คิดถึงข้อเสียของเขา : สาเหตุที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนตัดใจไม่ได้สักที เพราะมีแต่เรื่องเก่า ๆ มองไปทางไหนก็มีแต่ความทรงจำดี ๆ เต็มไปหมด วิธีแก้ คือ นึกถึงข้อเสียหรือสิ่งแย่ ๆ ของเขาให้มากที่สุด อะไรที่เขาทำให้เราเสียใจ เสียความรู้สึกมากที่สุด แล้วสักพักอาการช้ำรักก็หายไปเอง

     
4. ทำตัวเองให้ดูดีเข้าไว้ : คงไม่มีใครสนใจคนที่ไม่ดูแลตัวเองหรอกนะคะ เพราะขนาดคุณยังไม่ดูแลตัวเองเลย เดินออกมาจากที่นอนแล้วเปลี่ยนตัวเองซะ เรียกความสดใสและความมั่นของเรากลับคืนมา ลองตัดผมทรงใหม่ ใส่เสื้อผ้าสไตล์ใหม่ ๆ ดูบ้าง บางทีคุณอาจจะพบอีกด้านของตัวคุณก็ได้

     
5. ออกกำลังกาย : คงเป็นสิ่งที่เพื่อนคุณเห็นด้วยมากที่สุด เพราะการออกกำลังกายนอกจากจะทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงแล้ว ยังทำให้จิตใจแจ่มใสอีกด้วย ไม่แน่นะคุณอาจจะพบกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่ชอบออกกำลังกายเหมือนกันก็ได้

     
6. ออกไปสังสรรค์ : หลังจากที่โลกใบนี้มีแต่เราสองคน ก็กลับกลายเป็นโลกสีหม่นของคุณคนเดียว แต่คุณลืมอะไรไปหรือเปล่าว่ายังมีเพื่อนซี้ที่อยู่ข้างคุณอยู่นะ ชวนกันออกไปปาร์ตี้สิ ออกสเต็ปกันให้สุดเหวี่ยง แล้วเอาความเศร้าโยนทิ้งใส่ถังขยะไปเลย

     
7. หลีกเลี่ยงเจอเพื่อนของเขา : เป็นอีกทางหนึ่งที่ตัดเขาออกไปจากชีวิตคุณ คุณคงทำใจได้ยากหากคุณยังรับรู้เรื่องของเขาตลอดเวลา และอาจจะรู้มากกว่าตอนเป็นแฟนกันเสียอีก แล้วถ้ารู้ว่าเขามีใครอีกคนละก็ รับรองว่าน้ำตาของคุณได้ไหลออกมาอีกแน่ ๆ ทางที่ดีหลีกเลี่ยงการเจอเพื่อนของเขาดีกว่า ถ้าคนคนนั้นเป็นทั้งเพื่อนเขาและเพื่อนคุณ ก็ลองทิ้งระยะห่างสักพักจะดีกว่า ให้อะไร ๆ มันดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยกลับไปคุยกันใหม่ก็ยังไม่สาย

     
8. ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ : จัดตารางให้แน่น อย่าให้มีเวลาว่างมานั่งคิดฟุ้งซ่าน เสียเวลาเปล่า ๆ ออกไปหาสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเองดีกว่า ไม่ว่าจะฝึกปีนเขา เรียนภาษา หาคอร์สทำอาหาร ฯลฯ ก็ทำมันไปให้หมด สุดท้ายคุณอาจจะได้เจอกับงานอดิเรกใหม่ของตัวคุณเองก็ได้

     
9. มองหาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ : มันไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไปหรอก เพียงแต่คุณก็ควรให้ความยุติธรรมกับหนุ่มคนใหม่ของคุณด้วย ควรบอกสถานการณ์ของตัวคุณให้เขารับรู้ดีกว่า เพราะจากเพื่อนคุยเล่น ๆ อาจจะกลายมาเป็นตัวจริงของคุณก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ก็คิดเสียว่าอย่างน้อยคุณก็ได้เพื่อนดี ๆ ในชีวิตคุณเพิ่มมาอีกหนึ่งคนนะ

     
10. รักษาด้วยการบำบัด : ไม่ได้หมายความว่าให้พบจิตแพทย์นะจ๊ะ แต่หมายถึงการผ่อนคลายอารมณ์ พาตัวเองไปเข้าสปา นวดตัวให้สบาย หรือจะทรีทเมนท์บำรุงผมก็ได้ไม่ว่ากัน นาทีนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปมากกว่าตัวคุณเองอีกแล้ว เอาเวลาที่เคยมีให้เขา กลับมาดูแลตัวเอง ก้าวออกจากชีวิตเดิม ๆ ดีกว่า

          และนี่คือวิธีรักษาอาการอกหักที่เรานำมาบอกกัน จริง ๆ แล้วอาการอกหักเป็นเรื่องของจิตใจ ซึ่งสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ เวลา เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยเยียวยาหัวใจคุณได้ดีที่สุด หันกลับมาใส่ใจตัวเองจะดีกว่านะ

แหล่งที่มา  http://wedding.kapook.com

Thursday, June 6, 2013

ทายนิสัย จากการเจอผี




           เวลาเจอผีแล้วเลือกทำอะไรเป็นอย่างแรกก่อน บอกนิสัยได้นะ

 ชูพระ

          โอ้โห ขนาดเจอผี ยังมีอารมณ์คว้าพระขึ้นมาขู่ผีอีก แสดงว่าใจเย็นเป็นน้ำเลยนะคุณเนี่ย คิดว่าปัญหาทุกอย่าง สามารถจัดการได้แน่นอน ขอเพียงมีเวลาให้คุณได้ค่อยๆ คิดไตร่ตรองมันซักพัก เพราะอย่างนี้ ในสายตาคนอื่น คุณจึงดูเชื่องช้าไปซักหน่อย คุณไม่ซีเรียสเรื่องอนาคตของตัวเองเลยนะ หรือจะพูดให้ถูกก็คือ คุณไม่เคยคิดถึงมันเลยมากกว่า เพราะความเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ของคุณนี่เอง แต่ยังไงก็คิดๆ ไว้บ้างก็แล้วกัน อนาคตที่สดใสกำลังรอคุณอยู่นะ

 วิ่งหนี

          เจอผีเป็นเผ่นอย่างนี้ล่ะก้อ แสดงว่าคุณเป็นคนมั่นใจในตัวเอง เป็นคนจริงจัง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้จักปล่อยวาง และรับมือกับความเครียดต่างๆ ได้เป็นอย่างดีเพราะคุณจะรู้ว่าเวลาไหนควรจริงจัง และเวลาไหนควรหยุดพักสมองเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ หากควบคุมอารมณ์ได้ดีแบบนี้ ไม่เครียดเรื่องไร้สาระที่เข้ามารบกวนจิตใจ แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขแล้วล่ะ

 เฉยๆ

          นิ่งจริงๆ เลยนะคุณเพอร์เฟ็กชั่นนิสต์ แต่ขอเตือนไว้นิดนึงแล้วกันว่าอย่ากดดันตัวเองต่อไปเลย อย่าลืมนะว่าคุณก็เป็นแค่คนธรรมดา มีแค่สองมือสองเท้าเท่านั้นไม่ต้องทำอะไรเพอร์เฟ็กต์ไปหมดทุกอย่างหรอก โดยเฉพาะเรื่องเรียนน่ะ ไม่ต้องเกรด 4 ทุกวิชา หรือต้องได้ที่ 1 ตลอดไปหรอก หาเวลาไปผ่อนคลายเที่ยวเล่นกับเพื่อนบ้าง จำไว้ว่า ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ แค่ตั้งใจทำให้ดีที่สุดก็พอ

 สวดมนต์

          อย่างนี้เรียกว่าใช้ธรรมะเข้าข่ม แสดงว่าคุณเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมาก ตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้สูงลิบและพยายามทุกวิถีทางที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย ให้ได้ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย นั่นอาจเป็นเพราะที่คุณมักเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนรอบข้างอยู่เสมอ โดยเฉพาะคนที่เหนือกว่า จึงไม่รู้สึกพอใจตัวเองซักที เมื่อคุณไปได้ถึงจุดที่ต้องการแล้ว ก็มักจะมองคนที่เหนือกว่าขึ้นไปอีก คุณก็พยายามจะตะเกียกตะกายขึ้นไปให้ได้ หลายครั้งคุณจึงทั้งรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งรู้สึกเหงา มองโลกในแง่ดีให้มากขึ้น แล้วชีวิตจะสดใสขึ้นทันตา

แหล่งที่มา  http://horoscope.kapook.com/view9556.html

Monday, June 3, 2013

ทายนิสัยจากท่าทางการกินอาหาร




            นิสัย ในการทานอาหารของคนเรานั้น แตกต่างกันอย่างแน่นอนเพราะอิทธิพลจากสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูตั้งแต่วัย เด็ก...แต่ความแตกต่างนี้เอง ที่ทำให้นำมาทายใจกันได้ จะแม่นยำอย่างไรแค่ไหนก็ต้องลองดูซินะ

           
 ทานอาหารด้วยท่าทางอ้อยอิ่ง

            สำหรับคนที่รับประทานอาหารอย่างอ้อยอิ่ง ค่อยๆละเลียดทานทีละนิดๆนั้น แสดงว่าเป็นคนที่เรียกร้องความสนใจเก่ง ต้องการให้คนอื่นสนใจตัวเองเสมอ และยังเป็นคนที่ต้องการความรักและความเอาใจใส่อยู่เสมอ

            เมื่อผูกพันกับใครมักจะยึดถือจริงจัง และเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวมากกับเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ จะทนไม่ได้เลยหากถูกเฉยชาหรือไม่ได้รับความไยดีจากคนที่รัก

           
 ทานอาหารรวดเร็วแต่ไม่เลอะเทอะ

            ส่วนคนที่ทานอาหารอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ได้มูมมามเลอะเทอะ แสดงว่าเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนแอ็คทีฟ มีพลัง ชอบคิดชอบทำอะไรทีละหลาย ๆอย่างพร้อมกัน แต่ทำอะไรก็จะมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นคนใจร้อน คิดอะไรได้ก็ทำเลยจนบางทีขาดความรอบคอบในการตัดสินใจ

            นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องรายละเอียดอะไรนัก มักให้ความสำคัญแต่กับเรื่องใหญ่ ๆ เท่านั้น มีแนวโน้มว่ามักได้ทำงานระดับบริหารอยู่เสมอ

           
 ทานอาหารอย่างตั้งใจ

            คนที่ก้มหน้าก้มตาทานอาหารอย่างตั้งใจมาก ๆ จนกว่าจะอิ่มแล้วค่อยทำอย่างอื่นนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มีความตั้งใจสูงที่จะพัฒนาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ทั้งในด้านฐานะความเป็นอยู่หรือด้านอื่นๆเป็นคนที่มีความอดทน อดกลั้น เมื่อมีสิ่งไม่พอใจก็จะเงียบมากกว่าที่จะเอะอะโวยวายแสดงอารมณ์ออกมาให้คน อื่นเห็น

           
 ทานอาหารมูมมาม

            ส่วนคนที่ทานอาหาด้วยลักษณะนี้ มักจะเป็นคนที่มีความปรารถนาต้องการสูงในทุกๆเรื่อง เป็นคนที่ต้องการความเป็นหนึ่ง มีความฝักใฝ่เรื่องเกียรติยศมาก และยังเป็นคนที่ดื้อรั้น แต่มักจะสับสนเกี่ยวกับความต้องการของตัวเอง

           
 ทานอาหารอย่างมีชีวิตชีวา

            สำหรับคนที่มักจะทานอาหารอย่างมีชีวิตชีวาประมาณว่าไม่ว่าทานอะไรก็จะดู อร่อยไปเสียหมดนนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน มีความอบอุ่น เป็นคนใจกว้าง เปิดเผย มีความสามารถในการแก้ปัญหาทั้งของตัวเองและคนอื่น เป็นที่ปรึกษาที่ดี มีคำแนะนำที่น่าทึ่งมาให้อยู่เสมอ แต่จะไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จกับการทำงานที่ต้องลงมือเอง นอกจากนี้ ยังเป็นคนที่รักอิสระ และชอบการผจญภัยอีกด้วย

           
 ทานอาหารอย่างเบื่อ ๆ

            คนที่เมื่อทานอาหารมักจะทานด้วยท่าทางเบื่อๆหน่ายๆนั้น มีท่าทีเนือยๆแสดงว่าเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง มักมีความต้องการเร้นลับอยู่ในใจ แต่ไม่ค่อยยอมปริปากพูด

            นอกจากนี้ยังเป็นคนช่างคิดช่างฝัน มีจินตนาการสูงและชอบการอยู่ตามลำพัง เพื่อทำในสิ่งที่ตัวเองพอใจ และยังเป็นคนที่มีโลกส่วนตัว ไม่ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่ายในเรื่องของตัวเอง ไม่ว่าจะมีความสนิทสนมกันสักเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อรักใครก็จะฝังใจในรักนั้นจนเนิ่นนาน

           
 ทานอาหารอย่างไม่พอใจ

            ส่วนคนที่มักทานอาหารแบบไม่พอใจเสมอ ไม่ติดที่รสชาติอาหาร ก็ติดที่บรรยากาศรอบ ๆ หรือคนที่ร่วมโต๊กันอยู่ด้วย แสดงว่าเป็นคนมีอารมณ์แปรปรวน หรือเจ้าอารมณ์ก็ว่าได้ เป็นคนหงุดหงิดง่าย ปรับตัวไม่ค่อยเก่ง เป็นคนที่มีมาตรฐานของตัวเอง แต่ไม่เชื่อในมาตรฐานของคนอื่น แต่ก็ต้องการความรักความเข้าใจจากคนอื่นเสมอ

           
 ทานอาหารอย่างเรียบร้อย

            คนที่ทานอาหารเรียบร้อยนั้น มักจะเป็นคนที่ใจอ่อน แต่มีความระวังตัว เป็นคนที่อยู่ในระเบียบวินัย ให้ความเคารพต่อกฎเกณฑ์ทางสังคม รู้จักกาละเทศะ และเป็นผู้ที่คนอื่นเดาใจยาก ให้ความเคารพผู้ใหญ่ และมีแนวคิดในเรื่องความกตัญญู และยังให้คึวามสำคัญกับความเป็นระเบียบเรียบร้อยและมารยาทสังคม

แหล่งที่มา  http://horoscope.kapook.com/view14557.html, ข้อมูลจาก Forward Mail