Friday, November 20, 2015

คนรักไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ให้ความสำคัญกับตัวเองบ้างดีกว่า




ความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อนถึง ขั้นเป็นคนพิเศษ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแฟนนั้นอาจจะทำให้ชีวิตดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาก และเป็นคนที่ฉุดเราขึ้นมาจากความเหงาก็จริง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้หมายความว่าหลังจากที่เขาเข้ามาแล้วจะกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตเราหรืออยู่ไม่ได้หากไม่มีเขา ฉะนั้นก่อนที่จะมอบหัวใจให้กับใคร ควรจะดูแลใส่ใจและรักตัวเองให้เป็นก่อนดีกว่าด้วยเคล็ดลับเหล่านี้

1. อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล

           เมื่อมีอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิต ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทุ่มทุกอย่างในชีวิตหรือยอมสูญเสียความเป็นตัวเองไป เพื่อเอาใจอีกฝ่าย และคิดว่าวิธีนี้จะสามารถดึงให้เขาอยู่กับเราไปได้นาน ๆ เพราะสุดท้ายแล้วเมื่ออีกฝ่ายหมดใจยังไงก็รั้งไว้ไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ชีวิตเสียศูนย์ควรจะให้เท่าที่ให้ได้ทั้งเวลาและสิ่งอื่น ๆ ในชีวิต และทำในสิ่งที่มีความสุขทั้งสองฝ่าย หากมีเรื่องที่ไม่เข้าใจหรือเห็นไม่ตรงกันก็หันหน้าคุยกันไปเลยตรง ๆ

2. ให้ความสำคัญกับทุกเรื่องเท่ากัน

           จริงอยู่ที่จะต้องใส่ใจและมีเวลาดูแลคนรัก แต่อย่าลืมว่าในชีวิตของเรานั้นมีอีกหลายเรื่องที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นควรให้ความสำคัญทุก ๆ เรื่องเท่ากัน ไม่ว่าจะเรื่องงาน การเรียน ครอบครัว หรือแม้แต่กระทั่งเพื่อน ๆ ก็ตาม หรือพูดง่าย ๆ ว่าทำตัวให้เหมือนปกติและจัดแบ่งเวลาให้กับคนรักเท่าที่เหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องตามใจหรือตามติดคนรักตลอดเวลา

3. อย่าทนหากรู้สึกแย่

           บางครั้งการเป็นคนรักไม่ได้หมายความว่าจะต้องทนทุกสิ่งทุกอย่างเสมอไป หากบังเอิญเจอคนรักนิสัยไม่ดี เช่น เจ้าชู้ เอาแต่ใจ ชอบใช้กำลัง ว่ากล่าวให้เจ็บช้ำน้ำใจ หรือไม่เคยให้เกียรติในฐานะคนรักเลย ควรจะรักษาสิทธิของตัวเองด้วยการพูดคุยกันตรง ๆ บ้างว่ามีสิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบ เพื่อปรับความเข้าใจให้ตรงกัน แต่ถ้าหากอีกฝ่ายไม่สนใจไม่ควรจะทนคบต่อไป ถอยออกมาเพื่อรอคนใหม่ หรือมอบความรักให้คนที่รักเราจริง ๆ ดีกว่า

4. อยู่คนเดียวให้เป็น

           เมื่อเวลาผ่านไปสาว ๆ หลายคนชินกับการมีแฟนอยู่ข้าง ๆ จนลืมไปแล้วว่าการอยู่ตัวคนเดียวเป็นอย่างไร สาเหตุนี้เองที่ทำให้สาว ๆ หลายคนต้องทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รัก ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายทำไม่ดีสารพัด เพราะฉะนั้นสาว ๆ ควรเรียนรู้ที่จะอยู่คนเดียว โดยการดูหนัง กินข้าว เดินช้อปปิ้งเหมือนสาวโสดบ้าง นอกจากจะมีพื้นที่ส่วนตัวทำตามใจตัวเองแล้ว จะได้ทำใจให้ชินเมื่อตอนที่ไม่มีเขาในเวลาเดียวกันด้วย

5. อย่าลืมมองอนาคตของตัวเอง

           หลายคนให้ความสำคัญกับเรื่องความรัก และยอมทิ้งโอกาสดี ๆ มากมายที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องทำงาน เพื่อให้ได้อยู่กับคนรัก ซึ่งความคิดแบบนี้อาจไม่ถูกต้องเท่าไรนัก เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ได้เข้ามาแวะเวียนมาหาเรามากมายนัก อีกทั้งไม่มีอะไรการันตีได้ว่าความรักที่มีอยู่ในมือจะมั่นคงและยั่งยืนตลอดไป ฉะนั้นควรดูแลชีวิตให้ดีก่อนเพื่ออนาคตของตัวเอง แล้ววันหนึ่งความรักที่ดีก็จะเดินเข้ามาเองโดยไม่ต้องขวนขวายเลยล่ะ

           การเป็นคนรักที่ดีนั้นไม่ได้หมายความว่าจะต้องยอมเสียสละทุกอย่างในชีวิตไป ทำเท่าที่จะทำได้หรือให้เท่าที่จะให้ได้โดยตัวเองไม่เดือดร้อน นอกจากต่างฝ่ายต่างมีความสุขแล้ว ยังทำให้ตัวเราดูมีค่าในสายตาของคนรัก และไม่กลายเป็นของตายสำหรับใครด้วย ที่สำคัญยังสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวในวันที่เขาจากไปด้วย

แหล่งที่มา  http://wedding.kapook.com

Friday, November 13, 2015

5 เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิง ที่ผู้ชายอยากจะรู้




         ผู้ชายมักประสบปัญญาเรื่องการคาดเดาความในใจของผู้หญิง เพราะไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร ? ผู้ชายจึงสรุปเหมารวมเอาว่าผู้หญิงเป็นเพศที่เข้าใจยาก แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่สร้างเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามอย่างน่าประหลาดใจ หลากหลายเรื่องราวที่ผู้ชายมักตั้งคำถามให้กับพฤติกรรมหรือความคิดของ ผู้หญิง วันนี้เราเลยอาสามาเปิดเผยเรื่องที่ผู้ชายเองอยากรู้ในตัวผู้หญิง จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

1. เข้าใจว่าผู้หญิงชอบผู้ชายแบดบอย

          ผู้ชายส่วนใหญ่คิดว่าผู้หญิงปลาบปลื้มผู้ชายแบดบอย ที่ดูเจ้าชู้นิด ๆ เจ้าเล่ห์หน่อย ๆ และดูเหมือนว่าผู้ชายพวกนี้จะมีภาษีดีกว่า และมีโอกาสจีบหญิงติดมากกว่าผู้ชายนุ่มนิ่มเรียบร้อยเสียด้วย ช้าก่อน !!! หนุ่มคนไหนที่กำลังคิดจะเปลี่ยนตัวเองเป็นแบดบอย ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะจริง ๆ แล้วผู้หญิงจะให้คะแนนกับชายหนุ่มที่มีความมั่นใจในตัวเอง แต่ในความมั่นใจนั้นจะต้องไม่แฝงความก้าวร้าวนะ

2. วิธีจีบผู้หญิง

          ผู้ชายเดี๋ยวนี้ชอบเป็นพวกประเภทหมาหยอกไก่ ว่าง่าย ๆ ชอบจีบผู้หญิงแบบทีเล่นทีจริง แล้วค่อยดูปฏิกิริยาว่าผู้หญิงคนนั้นมีแนวโน้มจะมีใจให้กับตนหรือไม่ ? ถ้ามีค่อยเดินหน้าสูบเต็มกำลัง รู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงค่อนข้างแอนตี้วิธีการแบบนี้ ผู้หญิงเราเป็นพวกชอบความชัดเจนค่ะ จีบก็บอกว่าจีบ ไม่ใช่ว่าวันนี้หยอด วันหน้าไม่หยอด ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่อยากเอาความรู้สึกตนเองไปแขวนบนเส้นด้ายหรอกนะ

3. มุมมองความรักและเซ็กส์

          โลกปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องปกปิดอีก ต่อไป ขณะเดียวกันมุมมองความคิดเรื่องเซ็กส์ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้ชายเกิดคำถามที่อยากรู้จากผู้หญิง ว่าทำไมเวลาที่เธอจะตัดสินใจมีเซ็กส์กับเขาแต่ละครั้งดูเป็นเรื่องยากเย็น ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็พึงพอใจในรูปร่างและเสน่ห์ของเขา แต่ผู้หญิงกลับคิดตรงกันข้าม พวกเธอมองว่าความรักไม่ใช่เรื่องเซ็กส์เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ความเอาใจใส่ ดังนั้นการที่คุณหน้าตาดีไม่ได้แปลว่าผู้หญิงจะยอมมีเซ็กส์กับคุณเสมอไป

4. ใครว่าผู้หญิงไม่ร้าย

          อย่างที่เรารู้กันดีว่าผู้ชายเป็นเพศที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ในขณะที่ผู้หญิงชอบทำให้ทุกอย่างดูราวกับเป็นความลับไปทั้งหมด ชอบมีลับลมคมใน เก็บความรู้สึก เป็นต้นว่าถ้าเธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับเพื่อนสาวคนสนิทของคุณ เธอจะไม่แสดงออกถึงอาการเกลียดขี้หน้าอย่างโจ่งแจ้ง แต่เธอจะค่อย ๆ แฝงตัวเพื่อเก็บข้อมูลฝ่ายตรงข้าม และหาจุดอ่อนโต้กลับ เราขอเตือนว่าคุณอย่าเผลอประมาทผู้หญิงเป็นเด็ดขาด

5. ความจริงของเรื่องบนเตียง

          เรื่องบนเตียงเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ชายส่วนใหญ่อยากรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องรสนิยมเรื่องบนเตียงของผู้หญิงคนนั้น ไม่แน่ว่าผู้หญิงที่ดูบุคลิกแก่นแก้ว แต่พอถึงกิจกรรมบนเตียงอาจเชื่องเป็นแมวน้อย อาจเป็นเพราะว่าเธอเองรู้สึกกลัว แต่ผู้ชายไม่อยากให้ผู้หญิงคิดแบบนี้ เขาอยากที่จะให้เธอเปิดใจ พูดคุยกันอย่างเปิดอกว่ามีสิ่งไหนที่เธอชอบหรือไม่ชอบ หรือต้องปรับปรุงตรงไหน การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยทำให้ทั้งคุณและเขามีความสุขกับเรื่องอย่าง ว่ามากขึ้น

          ตอน นี้เราก็ได้เปิดเผยเรื่องที่ผู้ชายอยากรู้ในตัวผู้หญิง บางครั้งมุมมองที่แตกต่างกัน อาจเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา ปล่อยให้เป็นเรื่องเก็บไว้ในใจ จนกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด จะดีไม่น้อยถ้าทั้งคุณและเขาต่างยอมวางความคิดของตัวเองลงบ้าง แล้วเปิดใจฟังอีกฝ่าย บางครั้งคุณอาจพบคำตอบที่คุณอยากรู้จากอีกฝ่ายได้ง่าย ๆ ก็ได้นะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
wmnlife.com และ findkeeplove.com
https://www.youtube.com/watch?v=-y-CxK0TW_0&spfreload=1

Monday, November 9, 2015

บททดสอบรัก.. เมื่อให้เพื่อนลองใจ แชทไปอ่อยแฟนหนุ่ม เจอแบบนี้ไลค์เลย





          เปิดบททดสอบรัก เมื่อให้เพื่อนลองใจ แชทไปอ่อยแฟนหนุ่ม งานนี้ทำเอาแฟนปลื้มหนักมาก เพราะรักเดียวใจเดียวสุด ๆ ด้านชาวเน็ตบางส่วนคิดต่าง บอกว่าเป็นวิธีที่ไม่ไว้ใจกันเลย

           สมัย นี้เรื่องพวกคบชู้สู่ชาย แฟนไปมีกิ๊ก แฟนนอกใจ คบซ้อนซ่อนเงื่อน กลายเป็นดราม่าประจำวันที่มีมาให้ได้อ่านกันเป็นประจำไปแล้ว แต่วันนี้ (9 พฤศจิกายน 2558) เราขอนำเสนอเรื่องน่ารัก ๆ ของชายคนหนึ่งที่ถูกแฟนเพื่อนลองใจ ขอแอบคบแบบลับ ๆ มาให้ได้อ่านกันบ้าง มาดูกัน.. ว่าเจอไม้นี้เข้าไป ผู้ชายจะว่ายังไง

           โดยเรื่องราวต่อไปนี้เป็นของ คุณ สมาชิกหมายเลข 2641391 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้บอกเล่าเรื่องราวว่า เขาน่ะถูกเพื่อนแฟนแชทมาจีบ ทำทีเป็นปลื้ม.. และขอคบแบบลับ ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นแฟนกับเพื่อนของเธอ พร้อมทั้งอ่อยด้วยคำพูด ส่วนเขานั้นก็ตอบกลับไปว่าเรื่องนี้มันไม่ดี อีกทั้งเขาก็รักแฟนมาก ๆ พร้อมบอกว่าจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ก็แล้วกัน เรื่องนี้ผิดที่นอกใจแล้ว ตัวน้องผู้หญิงที่มาจีบเองยังเป็นเพื่อนกับแฟนเขา คงต้องขอบาย.. ไม่ขอเอ่ยถึงเรื่องนี้อีก















              ส่วนท้ายบทสนทนา หญิงสาวที่แชทไปจีบก็เฉลยในตอนท้ายว่า นี่คือการลองใจ เพราะแฟนของพี่ก็อยู่ด้วยกันระหว่างแชท


              อย่างไรก็ดี ชาวเน็ตที่ได้อ่านเรื่องราวดังกล่าวก็ชื่นชมเจ้าของกระทู้เป็นอย่างมาก ที่ซื่อสัตย์ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขณะเดียวกันก็มีบางเสียงบอกว่า บทสนทนาเหมือนผู้ชายรู้ทันผู้หญิงอยู่แล้ว และบางคนก็บอกว่า นี่อาจจะเป็นเรื่องแต่ง เอามาโพสต์เพื่อให้คนชมก็เป็นได้






















http://hilight.kapook.com/view/128878

Saturday, October 31, 2015

สัญญาณความรู้สึกที่เปลี่ยนไป อาจทำให้รักเปลี่ยนแปลง





        คนที่เดินเข้ามาในชีวิตไม่ได้หมาย ความว่าคนคนนั้นจะเป็นคู่ชีวิตของเราเสมอไป ถึงแม้สำหรับบางคนจะใช้เวลาคบกันมาเนิ่นนานหลายปีแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้น ในวันนี้เราเลยนำสัญญาณหลากหลายรูปแบบของความรู้สึกมาฝากกัน เพื่อให้สาว ๆ สำรวจความรักของตัวเองว่าถึงเวลาแยกทางกันแล้วหรือยัง


  1. ไลฟ์สไตล์ต่างกัน

           ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากคนหนึ่งชอบอยู่บ้าน แต่อีกฝ่ายมักจะออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ หรือท่องเที่ยวอยู่เสมอ ความต่างที่ว่านี้ก็จะทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันและทะเลาะกันอยู่เสมอ สุดท้ายก็จบลงด้วยการแยกทางกัน เพราะฉะนั้น หากอยากจะสานสัมพันธ์กับใครสักคนไปนาน ๆ ควรจะหาคนที่มีไลฟ์สไตล์ไปในทิศทางเดียวกันมากกว่า


  2. ความคิดคนละขั้ว

           ความคิดและทัศนคติควรจะคล้ายคลึงกันหรือเหมือนกัน เพราะความแตกต่างจะทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งได้ง่าย ซึ่งผลที่ตามมานั้นนอกจากจะทำให้ทั้งคู่ไม่มีความสุขแล้ว ยังเกิดความเครียดสะสมทำให้ร่างกายทรุดโทรม กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย หรือหวาดระแวงไปเลยก็ได้ ฉะนั้น ไม่ควรปล่อยให้รักมาทำร้ายชีวิตของเรา


   3. บอกรักไม่ได้อีกแล้ว

           คำว่ารักที่เคยมอบให้กันทุกวันทั้งคำพูด และการดูแลห่วงใยเอาใจใส่ มาตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นกลับลดลง จนบางครั้งแอบลืมไปว่าตัวเองยังมีคนรักอยู่ หรือมักจะหลบเลี่ยงการเดทบ่อยครั้ง และอยากอยู่คนเดียวมากกว่า ความรู้สึกเหล่านี้เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าถึงเวลาที่อาจจะต้องแยกทาง กันจริง ๆ

4. ทำตามใจตัวเองมากขึ้น

           โดยปกติแล้วก่อนที่ตัดสินใจเรื่องใด ๆ ก็ตามมักจะต้องคิดถึงและเกรงใจคนรักก่อนเสมอ เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าหากตอนนี้ทำตามใจตัวเองมากขึ้น ตัดสินใจจากความรู้สึกของตัวเองเพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงอีกฝ่ายเลย และไม่เคยรู้สึกผิดในกรณีที่มีปากมีเสียงกัน เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนสถานะความสัมพันธ์ แล้วล่ะ


   5. มีแต่ปัญหาเดิม ๆ

           สำหรับคู่รักคงไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่าการทะเลาะกันในเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ครอบครัว หรือเพื่อน ๆ ก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าจะทดลองอยู่ห่างกัน หรือเลิกแล้วกลับมาคบกันใหม่อีกกี่รอบ ก็ยังเจอกับปัญหาเดิมไม่มีใครคิดจะเปลี่ยน การหาคนใหม่ที่เหมาะสมและเข้ากันได้น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับทั้งคู่


 
   6. อึดอัดทุกครั้งที่อยู่ใกล้กัน

           โดยปกติคนรักควรทำให้เรารู้สึกสบายและเป็นของตัวเองเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ในทางกลับกันหากคนรักทำให้รู้สึกอึดอัด และต้องการพื้นที่ส่วนตัว อยากอยู่ห่างจากคนรักมากกว่า ควรจะพูดคุยกับอีกฝ่ายไปตรง ๆ เพื่อปรับความเข้าใจเสียก่อน หากหลังจากนี้ยังคงรู้สึกไม่ต่างจากเดิมควรจะถอยออกมาอยู่คนเดียว น่าจะดีที่สุด

            เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะคบ ๆ เลิก ๆ หลายครั้งกับหลายคนสักเท่าไร แต่ถ้าหากรักครั้งนี้คิดว่าไปด้วยกันไม่ได้จริง ๆ คุยปรับความเข้าใจเว้นระยะห่าง หรือทำทุกวิธีไปแล้วสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น แถมยังไม่เคยมีเขาอยู่ในภาพอนาคตของตัวเอง ก็ไม่ควรจะดื้อดึงทนคบต่อไป เพราะอาจจะทำให้ความสัมพันธ์แย่ลง ทางที่ดีควรจะถอยห่างออกมา เพื่อรอคนใหม่ที่สามารถร่วมทางกันได้ดีกว่า
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
askmen.com, womenshealthmag.com
http://wedding.kapook.com