Friday, March 28, 2014

10 วิธีจุดประกายความรัก ให้กลับมาโรแมนติกอีกครั้ง




          จริงอยู่ที่การรักษาความรักไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากได้ลองตั้งใจทำ โดยเฉพาะการทำให้ความรักกลับมามีความสุข หวานชื่น โรแมนติกกันอีกครั้ง ด้วย 10 วิธีจุดประกายความรักให้กลับมาโรแมนติกมาฝากกัน เพื่อให้ทุกคู่รักมีความรักที่สดใสและมีความสุขกว่าที่ผ่านมา ที่สำคัญก็คือทำให้ความรักมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิมไปพร้อมกันด้วย

  
1. บอกรักสม่ำเสมอ

          ก่อนอื่นคุณไม่ควรคิดไปเองว่าคนรักจะสามารถรับรู้ความรักที่คุณให้ไปด้วยตัวเขาเอง ฉะนั้น จากนี้หากคุณอยากให้บรรยากาศที่เคยหวานชื่น และความรู้สึกโรแมนติกแบบเดิม ๆ กลับมา ก็อย่าลืมบอกรักคนรักของคุณเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขามีความหมายกับชีวิตคุณ และคุณก็แคร์เขามากเพียงใด ด้วยคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเช่น ฉันรักคุณ หรือขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด เป็นต้น

  
2. ร่วมกันทำกิจกรรมใหม่ ๆ

          การทำกิจกรรมที่เคยทำให้รู้สึกสนุกสนานก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเช่นนั้น ลอดไป เพราะฉะนั้น เพื่อทำให้บรรยากาศความรักของคุณโรแมนติกและดูน่าสนใจยิ่งขึ้น ให้ลองหากิจกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยสร้างสนุกสนานมาทำร่วมกันบ้าง อาจจะเป็นคอร์สเพิ่มทักษะสั้น ๆ อย่างเช่น เรียนการเต้น ทำอาหาร หรือพากันไปเปิดหูเปิดตาในสถานที่ท่องเที่ยวที่พวกคุณยังไม่เคยไปสัมผัสก็ ได้

  
3. การดูภาพยนตร์โรแมนติกด้วยกัน

          นอกจากนี้ ชีวิตรักของคุณยังโรแมนติกขึ้นได้ด้วยการดูภาพยนตร์โรแมนติก ดังนั้น หากมีเวลาว่างได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองและยังไม่มีกิจกรรมอะไรที่ต้องทำ ก็ลองหาภาพยนตร์แนวโรแมนติกมาดูด้วยกันบ้าง เพราะการชมภาพยนตร์แนวโรแมนติกไม่ได้ช่วยให้พวกคุณมีมุมมองความรักในแง่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นด้วย

  
4. มอบของขวัญให้คนรัก

          การให้ของขวัญเป็นสิ่งของที่เขาอยากได้หรืออะไรก็ตามที่คุณอยากให้ ก็ช่วยเพิ่มความโรแมนติกได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน อีกทั้งการให้ของขวัญก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันพิเศษ ส่วนในกรณีที่เขาไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ และคุณเองก็ไม่รู้จะให้อะไรเป็นของขวัญ ก็แค่สวมกอด บอกรัก หรือใช้ภาษากายสื่อให้เขารู้ว่าคุณรักเขาก็เพียงพอแล้ว

  
5. เขียนจดหมายรักถึงกัน

          การเขียนจดหมายรักก็ยังคงเป็นวิธีบอกรักสุดคลาสสิกที่ผู้คนนิยมนำมาใช้บอกรักกันมาตลอดตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ฉะนั้น ไม่แปลกหากคุณจะนำวิธีนี้มาใช้บอกรักกับคนรักของตัวเอง โดยการเขียนถึงความรู้สึกที่คุณมี เรื่องราวเก่า ๆ ที่พวกคุณทั้ง 2 คนรู้สึกประทับใจ และคำพูดที่อยากจะลืม เพื่อเป็นการย้ำเตือนความรู้สึกเก่า ๆ ให้กลับมาอีกครั้ง และทำให้สิ่งเหล่านั้นคงอยู่ตลอดไป

  
6. ร้อง เล่น และเต้นด้วยกัน

          ดนตรีก็เป็นอีกหนึ่งทางที่คุณสามารถนำมาใช้บอกรักกับคนรักของคุณ โดยการร้องและเต้นไปด้วยกัน แล้วระยะห่างระหว่างพวกคุณก็จะค่อยลด ๆ ลงและหายไปในที่สุด ทั้งนี้ หากร้องเพลงไม่เก่งก็อาจจะชวนคนรักมาลองเต้นจังหวะรำตามจังหวะต่าง ๆ เพราะช่วยจุดประกายไฟระหว่างพวกคุณให้ลุกโชนอีกครั้ง

  
7. ชมพระอาทิตย์ตกดิน

          หากมีเวลาว่างตรงกันหลังจากนี้ก็ลองชวนคนรักของคุณขับรถไปนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินกันบ้าง วิธีการเพิ่มความโรแมนติกง่าย ๆ ที่ประสบผลสำเร็จมาแล้วกับหลายคู่รัก อีกทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึกพิเศษไม่แพ้วิธีอื่น ๆ เลย

  
8. มีอารมณ์ขันบ้าง

          หากคุณเป็นสาวอารมณ์ขันอยู่แล้ว ก็นำจุดนี้ของคุณมาใช้ให้เป็นประโยชน์โดยการหยอกล้อหรือใส่มุกตลกเข้าไปในบทสนทนาบ้างเป็นครั้งคราว และไม่ควรจะโกรธหรือคิดเล็กคิดน้อย หากอีกฝ่ายมีการหยอกล้อกลับมาบ้าง แล้วบรรยากาศความรักที่เคยตึงเครียดก็จะค่อย ๆ ผ่อนคลาย พร้อมช่วยลดระยะห่างระหว่างกันและทำให้พวกคุณใกล้ชิดกันมากขึ้น

  
9. มีเซอร์ไพรส์เป็นครั้งคราว

          การให้ของขวัญเป็นเรื่องที่ดี แต่การเซอร์ไพรส์คนรักบ้างเป็นครั้งคราวก็จะช่วยให้ความรักของพวกคุณ โรแมนติกยิ่งกว่า ส่วนวิธีการเซอร์ไพรส์ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน อย่างเช่น วางแผนจัดปาร์ตี้วันเกิด เตรียมมื้อพิเศษสำหรับวาเลนไทน์ หรือชวนไปออกเดทกันอีกสักครั้ง แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้วิธีไหนมาเซอร์ไพรส์เขา ก็ไม่ต้องกังวล เพราะทุกวิธีต่างก็มีความพิเศษสำหรับเขาทั้งนั้น

  
10. ให้เซ็กส์เติมความสุข

          ปฏิเสธไม่ได้ว่าเซ็กส์ถือเป็นส่วนหนึ่งของความรักและชีวิตคู่ ดังนั้น สำหรับคู่รักที่แต่งงานกันไปแล้ว และรู้สึกว่าความรักมันเริ่มจืดชืด ก็อาจจะลองนำเซ็กส์เข้ามาช่วยจุดประกายความโรแมนติกระหว่างกันก็ได้

          ไม่ว่าความรักของพวกคุณจะเริ่มสั่นคลอนตั้งแต่เมื่อไหร่ และผ่านมานานแค่ไหนแล้ว ก็สามารถกลับมาสดใส สวยงาม และโรแมนติกได้อีกครั้งด้วย 10 วิธีข้างต้นที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ อย่างไรก็อย่าลืมนำไปใช้กับความรักของคุณ แล้วนำมาถ่ายทอดหรือบอกเล่าประสบการณ์ของคุณให้กันฟังด้วยนะคะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Monday, March 24, 2014

เหตุผลและวิธีรับมือ เมื่อเขาบอกปัดความรักของคุณ




        บางครั้งชีวิตก็ไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวังให้เป็นเสมอไป โดยเฉพาะในเรื่องของหัวใจ เพราะถึงแม้คุณจะชอบเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องรู้สึกแบบเดียวกับเราเสมอไป และหลาย ๆ ครั้งที่ผู้หญิงโดนปฏิเสธกลับมาหลังจากบอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ ซึ่งหลังจากที่ได้ยินดังนั้นไม่ว่าเป็นใครก็คงรู้สึกเจ็บไม่น้อย แต่ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ วันนี้เราก็เลยขอนำเหตุผล พร้อมกับวิธีรับมือเมื่อโดนบอกปัดความรักมาฝากกัน

1. ไล่ตามเขามากเกินไป

           อย่างที่รู้ ๆ กันว่าผู้ชายชอบเป็นฝ่ายไล่ตามมากกว่าฝ่ายถูกตาม ดังนั้น การพยายามเข้าหาเขามากเกินไป ก็จะเป็นการผลักเขาให้ถอยห่างมากกว่าจะดึงดูดเข้าหา โดยสาเหตุหนึ่งอาจจะเป็นเพราะกลัว หรือไม่ชอบผู้หญิงที่ทำกับเขาแบบนี้ แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ หากไม่อยากให้เขาออกห่างไปมากกว่านี้ คุณก็ควรจะเปลี่ยนวิธี โดยการทำให้รู้ว่าคุณชอบเขาด้วยการสื่อสารผ่านสายตา หรือคำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบพองาม แล้วปล่อยให้เขาเป็นฝ่ายไล่ตามคุณเอง

2. เขาเห็นคุณเป็นของตาย

           พฤติกรรมที่ทำให้ผู้ชายเมินมากที่สุด ก็คือ ผู้หญิงที่มีเวลาว่างให้เขาตลอด ไม่ว่าจะโทรศัพท์ไปตอนไหนหากเขาบอกให้มาคุณก็จะออกไปหาเขาทันที กับผู้หญิงที่เปิดเผยความรู้สึกมากเกินไปจนไม่มีอะไรให้เขารู้สึกว่าอยากจะค้นหา เพราะทั้ง 2 พฤติกรรมนี้ เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เขาเห็นว่าคุณเป็นของตายและไม่มีอะไรที่น่าดึงดูดเขาอีกต่อไป ซึ่งอาจจะดีกว่าหากคุณรู้จักตอบรับสลับกับการปฏิเสธบ้าง และเก็บความรู้สึกเอาไว้บ้าง

3. ไม่ใช่สาวในสเปค

           อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาไม่ชอบคุณ อาจเป็นเพราะว่าคุณไม่ใช่สาวในสเปคของเขา ซึ่งทางออกสำหรับปัญหานี้ก็ไม่ยากเลย แค่เพียงคุณพยายามตัดใจจากเขาแล้วรอคนใหม่ที่ชอบและสามารถยอมรับตัวตนของคุณได้เท่านั้นเอง และถ้าหากคุณคิดจะเปลี่ยนตัวเองให้ตรงกับสเปคของเขาแล้วล่ะก็ ขอแนะนำว่าไม่ควรทำเลย เพราะเป็นวิธีที่ทำให้คุณทั้งเหนื่อยและอึดอัด อีกทั้งสุดท้ายแล้วคุณก็ต้องกลับมาเป็นตัวเองในสักวันหนึ่งอยู่ดี

4. เขาเห็นคุณเหมือนเพื่อน

           หากก่อนหน้านี้พวกคุณเป็นเพื่อนกัน และตอนนี้เขาก็ยังมีทีท่าเหมือนเดิมอยู่ ไม่เห็นว่าเขาอยากจะเปลี่ยนแปลงหรือคิดจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ อาจจะถึงเวลาแล้วที่คุณควรตัดใจ เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ยังเห็นคุณเป็นเพื่อนอยู่ดี หรือไม่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าชอบและอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเขาให้มากกว่า นี้ ก็อาจจะต้องรอและให้เวลาพิสูจน์ความจริงใจของคุณอีกสักนิด เผื่อเขาอาจจะมองมาที่คุณบ้าง

5. เขากำลังตกหลุมรักผู้หญิงคนอื่น

           ถ้าตอนนี้เขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว ก็คงจะยากสักหน่อยหากคุณคิดจะเอาชนะใจเขาให้ได้ในตอนนี้ เพราะเขาได้ทุ่มความสนใจไปที่ผู้หญิงคนนั้นจนหมดแล้ว ซึ่งทางออกสำหรับคุณก็มีให้เลือกอยู่ 2 ทาง ก็คือ การตัดใจจากเขา หรือเลือกที่จะยืดเวลาออกไป จนกว่าเขาจะเปลี่ยนใจและหันกลับมามองที่คุณบ้าง

6. คุณขาดเสน่ห์ ไม่น่าดึงดูดใจ

           ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของคนที่เป็นเพื่อนกันมานาน ก็คือ ความเป็นเพื่อนทำให้เขาคุ้นเคยกับคุณจนไม่มีอะไรที่จะทำให้เขารู้สึกดึงดูด หรือสนใจได้ ดังนั้น หากเป็นไปได้คุณก็อาจจะลองเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง โดยเริ่มจากเสื้อผ้า หน้าผม แล้วคอยสังเกตปฏิกิริยาของเขา หากเขามีท่าทีตอบกลับมาก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากเขายังนิ่งเฉยอยู่ ก็แสดงว่าเขาเห็นคุณเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่ง และไม่มีทางที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กันได้อีกแล้ว

7. เขาคิดว่าเข้ากันไม่ได้

           แม้คุณจะเพอร์เฟคท์ในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าตา การแต่งตัว หรือหน้าที่การงาน แต่ถ้าหากนิสัยเข้ากันไม่ได้ก็มีสิทธิ์อกหักได้เหมือนกัน ทางออก ก็คือ พูดคุยกับเขาให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ ลองปรับเปลี่ยนนิสัยกันไปให้สุดความสามารถก่อน แล้วค่อยมาว่ากันอีกที

8. เขาเป็นเกย์

           เรื่องตลกที่มักจะเกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเหตุผลนี้คุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองเลย เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน โดยมีวิธีแก้ไข ก็คือ การยอมรับความจริงแล้วเดินออกมาจากชีวิตเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเสียดายความสัมพันธ์ที่อุตส่าห์สร้างกันมา ก็อาจจะเก็บเอาไว้เป็นเพื่อนสาวควงไปช้อปปิ้งตอนว่าง ๆ ก็ได้

9. เขาคิดว่าคุณไม่คู่ควร

           นอกจากนี้ ยังมีผู้ชายบางส่วนที่ชอบคิดว่าตัวเองเลิศเลอเพอร์เฟคท์ไปเสียทุกด้าน และผู้หญิงอย่างคุณก็ไม่เหมาะที่จะมาเป็นแฟนกับเขา หากเจอผู้ชายแบบนี้ก็ปล่อยให้เขาอยู่ในโลกของตัวเองดีกว่า เพราะสานสัมพันธ์กันต่อไปก็มีแต่จะเสียเวลาเปล่า และอีกไม่นานเขาก็จะสำนึกได้เองว่า เขาได้ปล่อยให้ผู้หญิงที่ดีที่สุดหลุดมือไปแล้ว

10. ครอบครัวไม่เห็นด้วย

           อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาไม่สนใจคุณก็เพราะว่า โดนครอบครัวของตัวเองสั่งห้ามไม่ให้คบกับคุณ หรืออีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เพื่อน ๆ ของเขาไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ซึ่งในความคิดของคุณอาจจะเห็นว่าเป็นเหตุผลที่ดูไม่เข้าทีเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าสำหรับผู้ชายบางคนก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวและเพื่อนของเขา ค่อนข้างมาก และทั้ง 2 ส่วนก็มีอิทธิพลกับความคิดของเขาพอสมควร

           และ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาไม่สนใจคุณ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างต่างก็มีทางออกในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งก็อยู่ที่คุณว่าจะเลือกเดินต่อไปจนกว่าเขาจะหันมามองที่คุณ หรือเลือกที่จะเดินออกไปแล้วรอคนที่ใช่สำหรับคุณมากกว่า
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Friday, March 21, 2014

วิธีเปลี่ยนความรักที่อ่อนไหว ให้กลายเป็นรักที่มั่นคง




         ทุกคนต่างก็อยากจะทำให้ความรักของตัวเองมีความมั่นคงและมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแรงขึ้นกันทั้งนั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่น้อยคนนักจะสามารถทำให้ความรักของตัวเองมีความมั่นคงและมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแรงอย่างที่คาดหวังกันเอาไว้ได้ หรือบางครั้งกว่าจะรู้ตัวว่าต้องทำอย่างไรทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว ทำให้หลายคนอาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องยาก ทั้งที่จริงแล้วไม่มีอะไรยากอย่างที่คุณคิดเลย หากคุณเรียนรู้วิธีรักษาความรักให้มั่นคงและนำไปใช้สานสัมพันธ์ให้แข็งแรงขึ้น

   
1. อย่าให้เรื่องเงินกลายเป็นปัญหา

          เรื่องเงินเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้คู่รักเกิดการถกเถียงจนกลายเป็นทะเลาะกันในท้ายที่สุด ซึ่งวิธีการหลีกเลี่ยงการทะเลาะในเรื่องเงินนั้นก็ง่ายมาก เพียงแค่คุณพยายามอย่าตำหนิการใช้เงินของอีกฝ่าย แต่ให้หันหน้าเข้าหากันและพูดคุยหารือเพื่อช่วยกันหาทางออก อย่างเช่น จะเพิ่มรายได้อย่างไร หรือมีวิธีไหนที่จะช่วยให้มีเงินเก็บมากขึ้นอีกบ้าง

   
2. เติมความรักให้กันสม่ำเสมอ

          หากคุณต้องการให้ความสัมพันธ์มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น คุณก็ควรจะหมั่นเติมความรักให้กันอย่างสม่ำเสมอ และอย่าลืมเหตุผลที่ทำให้พวกคุณรักกัน เพื่อที่คุณจะได้เอาไว้บอกรักคนข้างกายของคุณว่า คุณคิดถึงหรือรักเขาเพราะเหตุใด โดยพยายามใช้เหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกภูมิใจ มีความสุข และรักคุณมากขึ้นทุกครั้งที่ได้ฟัง

   
3. ดูแลให้สมกับเป็นคนพิเศษ

          ในเมื่อเขาเป็นคนพิเศษของชีวิตคุณ คุณก็ควรทำให้เขารู้สึกเช่นนั้นด้วย เพื่อความรักที่มั่นคงและมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแรง โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูก เพราะหลาย ๆ ครั้งที่ฝ่ายหญิงให้เวลากับอย่างอื่นในชีวิตมากกว่า จนเผลอลืมดูแลพวกเขาไปในบางครั้ง อย่างน้อย ๆ หากไม่มีเวลาอยู่ด้วยกันเลย ก็ควรจะโทรศัพท์หากันบ้างให้เขารู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังมีคุณอยู่ข้าง ๆ เขาเสมอ

   
4. ทะเลาะเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ

          ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทะเลาะเป็นส่วนหนึ่งที่ทุกคู่รักต้องเจอ แต่เมื่อคุณทะเลาะกันก็ควรจะเป็นการทะเลาะเพื่อให้เกิดสิ่งใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่การขุดคุ้ยอดีตมาถกเถียงให้เรื่องบานปลาย แต่ก็คงจะดีกว่าหากคุณหลีกเลี่ยงเรื่องราวที่จะนำไปสู่การทะเลาะกัน โดยการพยายามทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้มาก ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ตาม

   
5. เป็นทั้งฝ่ายให้และฝ่ายรับ

          สาเหตุที่ทำให้ความรักของใครหลาย ๆ คนล้มเหลวก็เพราะว่า ทำหน้าที่เป็นฝ่ายให้หรือฝ่ายรับเพียงอย่างเดียว คงจะดีกว่าหากคุณรักษาทั้ง 2 อย่าง ให้สมดุลกัน อย่างเช่น ดูแลความรักที่เขามีให้อย่างดี และในขณะเดียวกันก็ควรจะมอบความรักให้เขาอย่างจริงใจเช่นเดียวกับที่เขาให้ คุณด้วย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเขาทำอย่างไรก็ตอบกลับเขาไปอย่างนั้นนั่นเอง

   
6. เป็นเพื่อนที่ดีเสมอ

          ความเป็นเพื่อนเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คู่ประสบความสำเร็จในความรักมาแล้วมากมาย โดยการเป็นเพื่อนที่ดีของคนรักนั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ทำทุกอย่างเหมือนที่คุณทำกับเพื่อนสนิทของคุณ แต่ทำให้มากกว่าเท่านั้นเอง อย่างเช่น พยายามเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เขาฟัง ดูแลกันทั้งตอนสุขและทุกข์ และหมั่นสร้างบรรยากาศความรักให้สนุกสนานเข้าไว้ ความรักของคุณจะได้เป็นความรักที่เข้ามาช่วยผ่อนคลายให้ชีวิตของคุณและเขามีความสุขยิ่งขึ้น

   
7. ไม่คิดเล็กคิดน้อย

          ในชีวิตของคนเราต่างมีรายละเอียดยิบย่อยมากมายที่อาจเป็นสาเหตุทำให้พวกคุณ ทั้ง 2 คนทะเลาะกัน ฉะนั้น หากไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ๆ ที่กระทบกับความสัมพันธ์ของพวกคุณ ได้แก่ เรื่องเงิน หน้าที่การงาน หรือครอบครัว ก็ไม่ควรจะเก็บมาเป็นอารมณ์หรือคิดเล็กคิดน้อยให้เหนื่อยใจ อีกทั้งยังสร้างความเครียดให้กับคุณไม่น้อยเลย จะดีกว่าหากคุณมองข้ามไปบ้าง

          เห็นไหมล่ะว่าการรักษาความรักให้มั่นคงและสานสัมพันธ์ให้แข็งแรงนั้นไม่ใช่ เรื่องยากอย่างที่คิดเลย เพียงแค่ลองทำตามวิธีที่เราแนะนำไป ทั้ง 7 ข้อข้างต้น เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุหลักที่จะช่วยให้ความรักของพวกคุณเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ส่วนนอกเหนือจากนี้หากยังมีปัญหาที่ค้างคาใจก็ลองปรึกษาและหาทางออกกับคนรักของคุณกันดูนะคะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Friday, March 14, 2014

หมดรักแต่ไม่หมดหวัง ด้วย 5 วิธีเอาชนะใจตัวเอง



         มีทฤษฎีมากมายที่ว่าด้วยการดูแลและถนอมความรัก หรือการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบกับความรัก แม้แต่ในนวนิยายทั่วไปก็ยังกล่าวถึงด้านดี ๆ ของความรัก ทั้งที่จริงแล้วความรักก็เหมือนกับเหรียญที่มี 2 ด้าน แต่น้อยนักที่มีการกล่าวถึงความรักในด้านมืด ดังนั้น เมื่อโชคร้ายเจอกับมันโดยบังเอิญก็เลยเดินต่อไปไม่เป็น ในวันนี้เราก็เลยจะช่วยคุณหาทางออกให้กับปัญหานี้ แล้วก้าวออกไปจากความรักที่ดำมืดไปพร้อม ๆ กัน

1. เรียนรู้และยอมรับ

          การอกหักแต่ละครั้งย่อมนำความรู้สึกเจ็บปวดมาให้เสมอ แต่อย่าลืมว่าความเจ็บปวดเหล่านั้นก็จะกลายมาเป็นภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองด้วยเช่นกัน ดังนั้น เมื่อมีใครสักคนมาทำให้คุณผิดหวัง ก็แค่เรียนรู้ที่จะรักอย่างถูกต้องจากความผิดพลาด และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เคยพบเจอมา ในขณะเดียวกันคุณเองก็ควรจะยอมรับและไม่ยึดติดอยู่กับอดีตอันแสนเจ็บปวดของตัวเองด้วย ถึงจะก้าวพ้นจากปัญหานี้ไปได้

2. ทำสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ

          แม้การทำตามอารมณ์ความต้องการของตัวเองจะทำให้คุณมีความสุข อย่างเช่น ยังติดต่อกับแฟนเก่าอยู่บ่อยครั้ง หรือเช็กข่าวคราวของแฟนเก่าอยู่บ่อย ๆ แต่ถ้าหากเป็นสิ่งที่ทำให้คุณต้องเจ็บปวดก็ควรจะหยุดเสียตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนคนที่หักห้ามใจไม่ให้ตัวเองเลิกทำเช่นนั้นไม่ได้ ก็อาจจะลองหากิจกรรมอื่น ๆ มาช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ จะได้เลิกคิดถึงคน ๆ นั้นเสียที

3. กลับมารักตัวเองให้มากขึ้น

          หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ยอมทุ่มเททุกอย่างให้กับความรักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ ช่วงเวลาแบบนี้ถือเป็นโอกาสดีที่คุณจะหันกลับมาดูแลตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้าหน้าผมหรือภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่มันหมายถึงการดูแลตัวเองจากข้างใน ทั้งความคิด จิตใจ รวมไปถึงหน้าที่การงานเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองด้วย

4. ลบอดีตออกไปจากความคิด

          การผลักไสอดีตอันแสนหวานไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะทำ ซึ่งวิธีการนั้นก็มีมากมายนอกจากการทำกิจกรรม เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และหยุดอัพเดทข่าวคราวของเขา แล้วก็อาจจะลองออกไปเที่ยวกับเพื่อน ๆ กลับไปรับประทานอาหารกับพ่อแม่พี่น้องให้บ่อยขึ้น หรือทดลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำดูบ้าง

5. ศรัทธาในความรักและการรอคอย

          แม้ในวันนี้คุณจะเจอกับความรักที่ผิดหวัง แต่ทว่าหากคุณมีศรัทธาและมีความอดทนมากพอในการรอ สักวันหนึ่งคุณจะต้องได้พบกับความรักที่ดีอย่างแน่นอน เพราะสำหรับคนบางคนนั้นอาจต้องใช้เวลาในการค้นหาสักนิด แต่มันก็คุ้มค่าที่จะรอไม่น้อยเลย อีกทั้งระหว่างการเดินทางของความรักยังช่วยสอนให้คุณเรียนรู้ที่จะรักอย่างถูกต้อง เพื่อรักษาความรักที่คุณรอคอยให้มั่นคงด้วย

          อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าความรักมีทั้งด้านสว่างและด้านมืด ดังนั้น หากคุณพบกับรักที่ผิดหวัง ก็อย่าเพิ่งท้อแท้ไปเสียก่อน เพราะแม้ตอนนี้คุณจะเจ็บปวดมากมายแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วคุณจะต้องผ่านพ้นมันไปได้อย่างแน่นอน เหมือนกับหลาย ๆ คนที่เคยผิดหวังและกลับมาสมหวังในที่สุด ด้วยการรักษาจิตใจ ดูแลตัวเอง พร้อมกับศรัทธาและอดทนรอคอยความรัก

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต