ดอกไม้นานาพันธุ์ หลากหลายสีสัน หลากหลายรูปร่าง บ้างมีกลิ่นหอม
บ้างมีคมหนาม แต่นั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ดอกไม้แต่ละชนิดมีเสน่ห์ในตัวของมันเอง แถมพวกมันยังมีความหมายของตัวเองอีกด้วย ดังที่เราเรียกกันว่า
"ภาษาดอกไม้" (floriography) ...
ว่ากันว่า
ภาษาดอกไม้เหล่านี้มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยวิคตอเรียน ซึ่งใช้ดอกไม้หรือการจัดดอกไม้เป็นการส่งสารแฝงไป
ด้วยผู้มอบให้ไม่สามารถเอื้อนเอ่ยความในใจออกไปได้ แม้ปัจจุบันนี้ภาษาดอกไม้บางอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา
แต่ก็ยังถูกนำเอามาใช้กันอยู่เนือง ๆ อย่างเช่น การส่งดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสต่าง
ๆ และยามเมื่อหนุ่ม ๆ ส่งดอกไม้ให้กับสาวคนรัก
(หรือพยายามทำให้เธอรัก) นั่นเอง
ภาษาดอกไม้หลัก ๆ
ที่เราพอจะรู้กันส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นดอกกุหลาบแดง แทนความรักที่ร้อนแรง โรแมนติก, ดอกกุหลาบสีขาว แทนความดี ความบริสุทธิ์ผุดผ่อง,
ดอกลิลลี่แทนความหมายของความอ่อนหวาน บริสุทธิ์ ฯลฯ และดอกไม้อีกนานาพันธุ์ก็ยังซุกซ่อนความหมายเอาไว้มากมายนัก
วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาคุณไปเรียนรู้ภาษาของดอกไม้กันค่ะ
ดอกหน้าวัว
(Anthurium)
ดอกหน้าวัวมีถิ่นกำเนิดมาจากฮาวาย
เป็นดอกไม้เมืองร้อนที่มีสีสันสดใส รูปร่างหน้าตาน่าสนใจ มัน แทนความหมายของการต้อนรับขับสู้ด้วยความยินดี
ในโอกาสที่ถูกเชิญไปเป็นแขกเยี่ยมบ้านใคร ผู้คนก็มักนิยมนำดอกไม้ชนิดนี้ติดไม้ติดมือไปฝากเจ้าของบ้านด้วยนั่นเอง
เหมือนกับจะบอกว่า "ขอบคุณที่ต้อนรับเราอย่างดี
เธอจัดงานได้วิเศษมากจริง ๆ"
ดอกปักษาสวรรค์
(Bird of Paradise)
ปักษาสวรรค์เป็นไม้ท้องถิ่นของทางแอฟริกาใต้
รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์แปลกตา และสีสันที่สดใสสวยงาม ดูแล้วราวกับนกพันธุ์ Bird
of Paradise สีสันสดใสที่กำลังจะโผบินขึ้นท้องฟ้า
จึงเป็นที่มาของชื่อมันนั่นเอง ดอกไม้ที่สวยสะดุดตาดอกนี้สื่อความหมายของความรื่นรมย์ยินดี
จึงเป็นดอกไม้ที่เหมาะกับการส่งให้แก่กันในวาระที่ต้องการแสดงความยินดีได้ดีเยี่ยมเลยเชียว
ดอกคาร์เนชั่น
(Carnation)
ดอกไม้ชนิดนี้เพาะปลูกเก็บเกี่ยวกันในดินแดนทางตะวันออกมากว่า
2,000 ปีแล้ว และแม้จะไม่สามารถปลูกได้ในเมืองไทย แต่คนไทยก็คุ้นหูกับชื่อของมันไม่น้อย
(ใครนึกหน้าตาดอกไม้ตูมสวยชนิดนี้ไม่ออก ลองไปหาดูรูปจากข้างกระป๋องนมยี่ห้อเดียวกันนี้ได้นะจ๊ะ)
ดอกไม้ชนิดนี้มีกลีบแสนบอบบางและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัว สื่อถึงความงามและความภาคภูมิใจ
หากคุณส่งดอกคาร์เนชั่นสักช่อไปให้ใคร นั่นสื่อความว่า "ฉันภูมิใจในตัวเธอมาก ๆ เลย"
ดอกแกลดิโอลัส
หรือ ดอกซ่อนกลิ่นฝรั่ง (Gladiolus)
ที่มาของชื่อดอกไม้ชนิดนี้มาจากภาษาละติน
ซึ่งแปลว่า "ดาบ" นั่นเอง (ฝรั่งบางคนเรียกดอกแกลดิโอลัสว่า
Sword Lily ก็มี) มาจากตำนานที่ว่ามีนักรบ
(gladiator) คนหนึ่ง
พยุงร่างอาบเลือดของตัวเองมาที่ลำธารเพื่อจะดื่มน้ำดับกระหาย พลางสายตาเหลือบเห็นดอกไม้ที่สีสดสวย
กลีบบางพลิ้วไหว เขาเอื้อมมือจะไปเด็ดหมายจะนำมันไปฝากคนรัก แต่พลันมีดดาบของศัตรูพุ่งแทงทะลุร่างเขา
สิ้นลมลงตรงนั้นนั่นเอง ความ หมายของดอกแกลดิโอลัสจึงแทนความกล้าหาญ
แข็งแกร่ง คุณสามารถเลือกใช้ดอกแกลดิโอลัสเพื่อมอบแก่คนที่คุณเคารพ เพื่อแสดงความชื่นชมนับถือก็ได้
ดอกไฮยาซินท์
(Hyacinth)
ดอกไฮยาซินท์สีม่วงอ่อน กลีบแยกออกเป็นห้าแฉกสวยงามยามบานสะพรั่ง เป็นดอกไม้ซึ่งมีที่มาแต่ดั้งเดิมจากตุรกี
แถมยังมีตำนานปกรณัมเกี่ยวกับมันอีกด้วย ว่ากันว่า "ไฮยาซินท์" คือ ชื่อของหนุ่มน้อยรูปงามทายาทกษัตริย์แห่งเฮซิโดเนีย
ด้วยหน้าตาสะอาดสะอ้านน่ารักน่าเอ็นดูทำให้เป็นที่โปรดปรานของเทพอพอลโลมาก แต่ก็ยังมีเทพแห่งลมตะวันตก
(Zephyrus) ที่หลงใหลความงดงามของเด็กหนุ่มคนนี้ด้วย วันหนึ่งอพอลโลเล่นขว้างจักรกับไฮยาซินท์ ท่านเทพขว้างมันออกไปสุดแรงที่มี
หนุ่มน้อยวิ่งไล่ตามหมายจะกระโดดรับให้ได้กับมือ แต่ด้วยความริษยา เทพแห่งลมตะวันตกจึงเป่าให้จักรเปลี่ยนทิศทาง
เด็กหนุ่มจึงกะจังหวะพลาด จักรที่ว่าจึงฟาดที่ศีรษะของเขาอย่างแรงจนเลือดอาบ อพอลโลรีบมาประคองเขาไว้แต่หนุ่มน้อยก็สิ้นลมเสียแล้ว
เทพอพอลโลจึงเสกเลือดที่หลั่งออกมาให้กลายเป็นดอกไม้งดงาม และหยาดน้ำตาของท่านหลั่งรดเปลี่ยนเลือดสีแดงสดกลายเป็นสีม่วงของดอก
ไฮยาซินท์ดังที่เราเห็นนั่นเอง
ดอกไฮยาซินท์ จึงหมายถึงความรักที่มั่นคงไม่เปลี่ยนแปร
ส่งดอกช่อดอกไฮยาซินท์สวย ๆ ให้คนที่คุณรัก
เพื่อบอกความรักที่คุณมีให้มั่นคงเสมอไม่เคยแปรเปลี่ยน
ดอกไฮเดรนเยีย
(Hydrangea)
ดอกไฮเดรนเยียมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น
และถูกนำเข้าสู่ประเทศอังกฤษในปี 1788 มันเป็นที่นิยมของนักปลูกดอกไม้มาก
เนื่องจากสามารถเล่นสีของดอกได้ โดยจะเปลี่ยนแปลงไปตามค่าความเป็นกรด-ด่างของดิน
ซึ่งการ ส่งดอกไฮเดรนเยียให้ หมายถึง การเว้าวอนขอโทษ
ขอให้ได้รับการให้อภัย (ตามง้อว่างั้นเถอะ)
เพราะดอกของมันสื่อภาษาดอกไม้ว่า จริงใจ ไม่เสแสร้งนั่นเอง
ดอกไอริส
(Iris)
ดอกไอริสเป็นดอกไม้ที่บานแล้วอยู่ได้ไม่นานนักก็โรยรา
แต่กระนั้นความสวยของมันถูกใจผู้ได้รับแน่นอน มันแทน ความหมายของการชื่นชม
คำชมเชยที่น่ายินดีต่าง ๆ ทั้งกลีบดอกทั้งสามของมันยังแทนความหมายว่า ศรัทธา
ความรอบรู้ และความกล้าหาญ ได้ด้วย
ดอกบัว
(Lotus)
ดอกไม้ชนิดนี้เป็นที่คุ้นเคยกันดีสำหรับคนไทยและชาวพุทธทั้งหลาย
เนื่องด้วยดอกบัวเป็นดังดอกไม้แทนความสงบและบริสุทธิ์ มันผุดขึ้นมาจากโคลนตม
ค่อย ๆ โผล่ดอกตูมขึ้นเหนือผิวน้ำ และบานไสวสวยงามได้ในที่สุด นอกจากดอกบัวจะมีความหมายต่อศาสนาพุทธแล้ว
มันยังมีความหมายต่อศาสนาฮินดู และตำนานของอียิปต์ด้วยเช่นกัน แม้
จะมีการตีความแตกต่างกันออกไปบ้าง แต่ก็ยังมีความคล้ายคลึงร่วมกันอยู่ด้วย ดังที่จะได้นำเรื่องราวของดอกบัวตามความเชื่อจากแหล่งทั้งสามมาบอกเล่าสู่
กัน ต่อไปนี้
ความหมายของดอกบัวตามตำนานอียิปต์โบราณ
ในดินแดนของอียิปต์โบราณนั้นมีดอกบัวสองชนิดที่ขึ้นอยู่
คือ ดอกบัวสีน้ำเงิน และดอกบัวสีขาว และหากสังเกตดูในจารึกอักษรภาพ หรือไฮโรกลิฟฟิก
ก็จะพบว่ามีภาพของดอกบัวปรากฎอยู่บ่อยครั้ง ในความหมายของชนอียิปต์นั้น
ดอกบัวเป็นตัวแทนของสามความหมาย คือ การเกิดใหม่ ความตาย
และการผนึกรวมกันของอียิปต์เหนือและใต้
ในส่วนของการเกิดใหม่นั้น
ชาวอียิปต์โบราณ กล่าวว่า ลักษณะ ของดอกบัวที่บานในตอนเช้า
และเริ่มหุบในตอนบ่าย ก่อนจะค่อย ๆ มุดลงใต้ผิวน้ำไปทีละน้อย
และจะกลับมาเบ่งบานอีกครั้งในเช้าวันถัดไป เปรียบเหมือนกับการเกิดใหม่ และเหมือนกับการที่ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งชีวิต
ลาลับฟ้าในตอนเย็นย่ำ และโผล่มาทอแสงใหม่ยามรุ่งอรุณนั่นเอง ขณะเดียวกันก็ยังผูกความหมายกับความตาย
เนื่องด้วยคาถาแห่งความตายโบราณของอียิปต์บทหนึ่งหนึ่ง ว่าด้วยการเสกเปลี่ยนคนให้กลายไปเป็นดอกบัวนั่นเอง
ส่วนความหมายสุดท้ายอันเป็นสัญลักษณ์แห่งการผนวกรวมกันระหว่างอียิปต์เหนือ
และใต้ เนื่องด้วยดอกบัวและอักษรไฮโรกลิฟฟิกนั้นมีมากในดินแดนทางตอนเหนือ ส่วนต้นปาไปรัสซึ่งนำมาใช้เป็นกระดาษนั้นขึ้นอยู่อย่างดาษดื่นในดินแดนทาง
ใต้ เมื่ออักษรไฮโรกลิฟฟิกของดอกบัวมาปรากฎบนกระดาษปาไปรัสเป็นครั้งแรก จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการผนวกรวมกันของดินแดนทั้งสอง
ความหมายของดอกบัวตามศาสนาพุทธ
ดอกบัวของศาสนาพุทธแทน ความบริสุทธิ์ จิตใจที่ผ่องแผ้วสดใสไม่หมองมัว
และความศรัทธา ทั้งยังหมายถึงการตรัสรู้บรรลุธรรมเมื่อเปรียบกับดอกบัวที่เคยอยู่ใต้โคลนตม
ได้โผล่พ้นน้ำออกมาเบ่งบานรับแสงตะวันในที่สุด
นอกจากนี้ดอกบัวสีต่าง ๆ
ยังแทนความหายที่แตกต่างกันออกไปได้ด้วย ดังนี้
ดอกบัวสีน้ำเงิน
แทนชัยชนะที่จิตและปัญญามีเหนือกิเลส
ดอกบัวสีขาว
สื่อถึงความบริสุทธิ์ จิตใจที่สงบ ผ่องแผ้วสดใส
ดอกบัวสีม่วง
โดยปกติสีม่วงสื่อถึงความลึกลับ สำหรับดอกบัวสีนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่สื่อความหมายถึงความลึกซึ้งของพุทธศาสนา
ทั้งกลีบทั้งแปดของบัวสีม่วง ยังแทนมรรค 8 หนทางอันจะนำไปสู่การดับทุกข์ทั้งปวงนั่นเอง
ดอกบัวสีชมพู
จัดเป็นบัวที่ประเสริฐสุด และนับเป็นดอกบัวซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า
ดอกบัวสีแดง
สีแดงมีความหมายเกี่ยวเนื่องกับใจ
ดอกบัวสีแดงจึงสื่อความหมายถึงใจที่มีความรักและความเห็นแก่เห็นใจต่อผู้อื่น
ความหมายของดอกบัวตามศาสนาฮินดู
ความหมายของดอกบัวในศาสนาฮินดู
คือดอกไม้ที่สื่อถึงความงาม ความงอกเงย จิตวิญญาณ
และความเป็นนิรันดร์ ทั้งดอกบัวยังเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฎมาพร้อม ๆ กับเทพของฮินดู
เช่น พระนางลักษมีที่นั่งบนดอกบัวบาน เป็นต้น รวมทั้งมีความหมายที่คล้ายคลึงกับดอกบัวของศาสนาพุทธ
ที่เปรียบคนเขลาและผู้ปราดเปรื่องดังบัว 4 เหล่า
โดยในทางฮินดูบอกว่า แม้จะเป็นคนสติเขลาเบาปัญญา
แต่ก็ยังสามารถเรียนรู้แล้วค่อย ๆ เจริญสติขึ้นมาได้เช่นกัน
ดอกลิลลี่ญี่ปุ่น
(Oriental Lilly)
ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดช่อมาก
(แถมแพงด้วยนะ) ส่วนลิลลี่พันธุ์ผสมอย่างลิลลี่ญี่ปุ่น
หรือลิลลี่ลูกผสมสายพันธุ์ตะวันออก ก็เป็นที่นิยมมาก
ด้วยช่อดอกเชิดตั้งไม่คว่ำหน้า กลีบสีครีม นวลนุ่มราวแพรไหม
และลายจุดเหมือนหยดสีแต่งแต้มดูสวยงาม ยิ่งเป็นดอกสีขาวจะหมายถึง
ความบริสุทธิ์ จริงใจ ส่งให้สาวคนไหนรับรองเป็นปลื้ม
ดอกกุหลาบ
(Rose)
มาถึงดอกไม้ยอดฮิตอย่างดอกกุหลาบ ที่นิยมส่งให้กันแทนความหมายของคำว่ารัก ทั้งยังเป็นดอกไม้ที่เทพีแห่งความรัก
(อะโฟรไดท์) มอบให้เทพแห่งความรัก (อีรอส) อีกด้วย แต่กุหลาบแต่ละสี
รวมทั้งการผสมผสานกันระหว่างสี ก็ยังสื่อความที่ละเอียดอ่อนลงไปได้อีก ลองมาดูสิว่าภาษาดอกไม้ของกุหลาบแต่ละสี
สื่อความว่าอย่างไรบ้าง
กุหลาบคริสมาสต์
ความสงบสุข
กุหลาบชะมด
ความงามที่เปลี่ยนผัน
กุหลาบแคโรไลนา
รักอันตราย
กุหลาบสีแดง
รักแท้ รักที่ร้อนแรง
กุหลาบสีฟ้าหรือน้ำเงิน
ความลึกลับ หรือรักแรกพบ
กุหลาบสีขาว
รักมั่นคง ความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ความอ่อนเยาว์
รวมทั้งความอ่อนน้อนถ่อมตน
กุหลาบสีดำ
ความตาย การจากลา ความเป็นนิรันดร์ หรือการเกิดใหม่
กุหลาบสีเหลือง
มิตรภาพ และความยินดี แต่ในอีกทางก็หมายถึงความริษยา
ความรักที่แห้งเหี่ยว รักที่ผิดหวัง และการหักหลังได้ด้วยเช่นกัน
กุหลาบสีชมพู
ความงามสง่า
กุหลาบสีชมพูเข้ม
ความรู้สึกขอบคุณ
กุหลาบสีชมพูอ่อน
เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ความอ่อนเยาว์ รวมทั้ง ความปรารถนา เสน่หา
กุหลาบสีแดงเบอร์กันดี
ความงามอย่างหาที่ติไม่ได้
กุหลาบสีส้ม
ความปรารถนา ความเสน่หา การกระตุ้นเร้า
กุหลาบสีม่วง
รักแรกพบ
กุหลาบสีขาวและแดง
ความผูกพัน รวมกันเป็นหนึ่ง
(เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของสหราชอาณาจักรด้วย)
กุหลาบสีแดงและเหลือง แสดงแทนความยินดี
กุหลาบสีชมพูและขาว
"ผมรักคุณ และจะรักตลอดไป"
กุหลาบสีเหลืองและส้ม
ความปรารถนาที่เร่าร้อน
กุหลาบไร้หนาม
รักแรกพบ
ดอกทานตะวัน
(Sunflower)
ดอกไม้สีเหลืองสดใสที่หันทิศติดตามแสงแห่งตะวันอยู่เสมอ
เป็นดอกไม้ที่แทนความคิดที่ปราดเปรื่อง รวมทั้งแทนความหมายของรักบริสุทธิ์ได้อีกด้วย
ดอกทิวลิป
(Tulip)
ดอกไม้จากแดนกังหันนี้
แต่เดิมมีที่มาจากเปอร์เซีย เคยเป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงลิบเท่ากับบ้านทั้งหลังเลยทีเดียว
ดังนั้นมันจึงถูกใช้เพื่อแทนถึงความรักที่ถ่ายทอดไปให้ได้แบบไม่มีวันหมด
คราวนี้จะส่งมอบดอกไม้ให้ช่อให้ใคร
นอกจากจะดูความงดงามของมันแล้ว อย่าลืมนึกถึงความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดที่คุณส่งไปด้วยล่ะ
ไม่ว่าจะส่งให้คนรัก หรือส่งให้เพื่อนฝูง คนรู้จักในโอกาสต่าง ๆ ภาษาของดอกไม้จะช่วยเน้นย้ำความรู้สึกที่คุณมีต่อผู้รับได้เป็นอย่างดีทีเดียว
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/370491506823535271/