ถ้าไม่อยากจมปลักอยู่กับความเครียด
ต้องดู 14
อาหารที่ควรรับประทานและควรหลีกเลี่ยงเมื่อเกิดความเครียด
หลังจากสิ้นสุดวันที่แสนเหน็ดเหนื่อย คุณหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องแบกเอาหน้าบึ้ง ๆ และความเครียดเอาไว้ตลอดทั้งวันก็คงอยากจะผ่อนคลายด้วยอาหารจานโปรดและขนมแสนอร่อยกันใช่ไหมล่ะคะ แน่นอนว่าอาหารหลายชนิดสามารถช่วยให้ความเครียดลดลงแถมยังทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วย แต่อาหารบางชนิดก็อาจจะไปส่งเสริมความเครียดให้เพิ่มขึ้นอีก งั้นเราจะควรรับประทานอะไรดีล่ะ? วันนี้เราจะพาไปดูกันจากเว็บไซต์ prevention.com ลองมาดูกันสิว่าอาหารชนิดไหนที่ควรทานและควรเลี่ยงเวลามีความเครียด ไม่อยากเครียดซ้ำเครียดซ้อนก็ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
หลังจากสิ้นสุดวันที่แสนเหน็ดเหนื่อย คุณหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่ต้องแบกเอาหน้าบึ้ง ๆ และความเครียดเอาไว้ตลอดทั้งวันก็คงอยากจะผ่อนคลายด้วยอาหารจานโปรดและขนมแสนอร่อยกันใช่ไหมล่ะคะ แน่นอนว่าอาหารหลายชนิดสามารถช่วยให้ความเครียดลดลงแถมยังทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้อีกด้วย แต่อาหารบางชนิดก็อาจจะไปส่งเสริมความเครียดให้เพิ่มขึ้นอีก งั้นเราจะควรรับประทานอะไรดีล่ะ? วันนี้เราจะพาไปดูกันจากเว็บไซต์ prevention.com ลองมาดูกันสิว่าอาหารชนิดไหนที่ควรทานและควรเลี่ยงเวลามีความเครียด ไม่อยากเครียดซ้ำเครียดซ้อนก็ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
ขนมอบ
ถ้าคุณชอบกินขนมบรรดาขนมอบต่าง ๆ อย่างเช่น โดนัท เค้ก หรือ ขนมปังละก็ บอกเอาไว้เลยค่ะว่าอาหารเหล่านี้ไม่ได้ช่วยทำให้ความเครียดลดลงได้นะ ซ้ำร้ายมันจะยิ่งทำให้เครียดยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย เพราะอาหารเหล่านี้ไม่มีแม้แต่ไฟเบอร์ที่จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูงซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน และนั่นล่ะเป็นสาเหตุที่จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้นไงล่ะคะ
มันฝรั่งทอดกรอบ
มันฝรั่งทอดกรอบ แม้จะทำให้รู้สึกเพลิดเพลินเวลารับประทาน แต่มันก็มีคาร์โบไฮเดรตมากเลยล่ะค่ะ นี่ยังไม่นับเจ้าไขมันทรานส์ ศัตรูตัวร้ายของร่างกาย ซึ่งมีการศึกษาจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ พบว่าอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักขึ้นและรอบเอวที่จะทำ ให้คุณเครียดยิ่งกว่าเดิม
กาแฟ
จริงอยู่ที่มีผลการพิสูจน์แล้วว่ากาแฟช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ และช่วยจำลองการทำงานของโดปามีนในสมอง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า แต่กาแฟที่มีรสชาติหวานมาก ๆ อย่างเช่นกาแฟปั่นชนิดต่าง ๆ หรือ กาแฟที่มีเติมไซรัปมากเกินไปก็สามารถทำให้เครียดได้ยิ่งกว่าเดิมค่ะ เพราะน้ำตาลที่อยู่ในกาแฟนอกจากจะเพิ่มปริมาณแคลอรี่อย่างมหาศาลให้ร่างกาย แล้วก็ยังไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเกิดความแปรปรวน และส่งผลให้ระดับคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ
ซีเรียลบาร์
ซีเรียลบาร์ถึงแม้จะทำจากธัญพืชก็จริง แต่กว่ามันจะมาเป็นแท่งได้ ก็ต้องใช้น้ำตาลจำนวนมากเช่นเดียวกัน และเช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่น ๆ ที่บอกไปข้างต้นค่ะ ว่าระดับน้ำตาลที่สูงจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย หลีกเลี่ยงดีกว่าเนอะ
เฟรนช์ฟรายส์
ที่จริงแล้วเจ้าเฟรนช์ฟรายส์ก็ไม่ได้ต่างจากมันฝรั่งทอดกรอบเท่าไรเลยล่ะค่ะ เพราะมีทั้งไขมันทรานส์ และคาร์โบไฮเดรตที่ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนคอร์ติซอล แถมยังมีการศึกษาพบอีกว่าเจ้าอาหารขยะชนิดนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงของภาวะซึม เศร้าได้อีกด้วย
ไอศกรีม
ไอศกรีม ถึงแม้จะหวานอร่อย แต่มันก็นำมาซึ่งความเครียดที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะระดับน้ำตาลที่สูง และปริมาณแลคโตสที่จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างหนักจนเกิดความตึงเครียด ในระบบย่อยอาหาร แทนที่จะอารมณ์ดีก็อาจจะทำให้หน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิมนะ
น้ำอัดลม
อย่าคิดว่าเจ้าน้ำอัดลมเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลาย ๆ คนจะรอดพ้นค่ะ เพราะน้ำตาลที่อยู่ในน้ำอัดลมเทียบเท่ากับน้ำตาลถึง 10 ก้อน ! โอ้ย ... เยอะแยะขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่จะตามมาเลยค่ะว่าระดับฮอร์โมนความเครียด จะเพิ่มขึ้นขนาดไหนกัน แต่ถ้าใครจะเถียงว่างั้นน้ำอัดลมแบบไดเอตก็รับประทานได้สิ เพราะไม่มีน้ำตาล นั่นก็ผิดถนัดเลยล่ะ เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่ส่งผลโดยตรงต่อโรคอ้วนและโรคเบาหวานอีกด้วย ดังนั้นเลิกดีกว่าเนอะ
อาหารที่ควรรับประทาน
ถ้าคุณชอบกินขนมบรรดาขนมอบต่าง ๆ อย่างเช่น โดนัท เค้ก หรือ ขนมปังละก็ บอกเอาไว้เลยค่ะว่าอาหารเหล่านี้ไม่ได้ช่วยทำให้ความเครียดลดลงได้นะ ซ้ำร้ายมันจะยิ่งทำให้เครียดยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย เพราะอาหารเหล่านี้ไม่มีแม้แต่ไฟเบอร์ที่จะช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณสูงซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน และนั่นล่ะเป็นสาเหตุที่จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้นไงล่ะคะ
มันฝรั่งทอดกรอบ
มันฝรั่งทอดกรอบ แม้จะทำให้รู้สึกเพลิดเพลินเวลารับประทาน แต่มันก็มีคาร์โบไฮเดรตมากเลยล่ะค่ะ นี่ยังไม่นับเจ้าไขมันทรานส์ ศัตรูตัวร้ายของร่างกาย ซึ่งมีการศึกษาจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ พบว่าอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักขึ้นและรอบเอวที่จะทำ ให้คุณเครียดยิ่งกว่าเดิม
กาแฟ
จริงอยู่ที่มีผลการพิสูจน์แล้วว่ากาแฟช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้ และช่วยจำลองการทำงานของโดปามีนในสมอง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้า แต่กาแฟที่มีรสชาติหวานมาก ๆ อย่างเช่นกาแฟปั่นชนิดต่าง ๆ หรือ กาแฟที่มีเติมไซรัปมากเกินไปก็สามารถทำให้เครียดได้ยิ่งกว่าเดิมค่ะ เพราะน้ำตาลที่อยู่ในกาแฟนอกจากจะเพิ่มปริมาณแคลอรี่อย่างมหาศาลให้ร่างกาย แล้วก็ยังไปทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเกิดความแปรปรวน และส่งผลให้ระดับคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นอีกด้วยค่ะ
ซีเรียลบาร์
ซีเรียลบาร์ถึงแม้จะทำจากธัญพืชก็จริง แต่กว่ามันจะมาเป็นแท่งได้ ก็ต้องใช้น้ำตาลจำนวนมากเช่นเดียวกัน และเช่นเดียวกับอาหารชนิดอื่น ๆ ที่บอกไปข้างต้นค่ะ ว่าระดับน้ำตาลที่สูงจะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย หลีกเลี่ยงดีกว่าเนอะ
เฟรนช์ฟรายส์
ที่จริงแล้วเจ้าเฟรนช์ฟรายส์ก็ไม่ได้ต่างจากมันฝรั่งทอดกรอบเท่าไรเลยล่ะค่ะ เพราะมีทั้งไขมันทรานส์ และคาร์โบไฮเดรตที่ส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนคอร์ติซอล แถมยังมีการศึกษาพบอีกว่าเจ้าอาหารขยะชนิดนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงของภาวะซึม เศร้าได้อีกด้วย
ไอศกรีม
ไอศกรีม ถึงแม้จะหวานอร่อย แต่มันก็นำมาซึ่งความเครียดที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะระดับน้ำตาลที่สูง และปริมาณแลคโตสที่จะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างหนักจนเกิดความตึงเครียด ในระบบย่อยอาหาร แทนที่จะอารมณ์ดีก็อาจจะทำให้หน้าบึ้งยิ่งกว่าเดิมนะ
น้ำอัดลม
อย่าคิดว่าเจ้าน้ำอัดลมเครื่องดื่มสุดโปรดของใครหลาย ๆ คนจะรอดพ้นค่ะ เพราะน้ำตาลที่อยู่ในน้ำอัดลมเทียบเท่ากับน้ำตาลถึง 10 ก้อน ! โอ้ย ... เยอะแยะขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่จะตามมาเลยค่ะว่าระดับฮอร์โมนความเครียด จะเพิ่มขึ้นขนาดไหนกัน แต่ถ้าใครจะเถียงว่างั้นน้ำอัดลมแบบไดเอตก็รับประทานได้สิ เพราะไม่มีน้ำตาล นั่นก็ผิดถนัดเลยล่ะ เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลจะไปทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียในกระเพาะอาหารที่ส่งผลโดยตรงต่อโรคอ้วนและโรคเบาหวานอีกด้วย ดังนั้นเลิกดีกว่าเนอะ
อาหารที่ควรรับประทาน
ข้าวโอ๊ต อบเชย และน้ำผึ้ง
ข้าวโอ๊ตร้อน ๆ ที่แสนอร่อยที่มีกลิ่นหอมของอบเชยและรสชาติหวานกลมกล่อมของน้ำผึ้ง นอกจากจะทำให้อิ่มท้องแล้ว ยังมีคาร์โบไฮเดรตที่ดี ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับของฮอร์โมนอารมณ์ดี หรือเซโรโทนิน แถมอบเชย ยังช่วยลดภาวะแปรปรวนของระดับน้ำตาลซึ่งมาจากข้าวโอ๊ตและช่วยลดอารมณ์หงุด หงิดได้อีกด้วย ส่วนน้ำผึ้งนอกจากจะให้รสชาติหวานแล้ว ก็ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย เห็นไหมล่ะคะ มีประโยชน์กว่าของหวานอื่น ๆ เยอะเลย แต่ถ้าคุณอดใจที่จะดื่มกาแฟไม่ได้ ก็ลองเปลี่ยนจากการใช้นมเป็นส่วนผสมมาใช้นมถั่วเหลืองมาทดแทนก็จะช่วยให้ ระดับเซโรโทนินในร่างกายเพิ่มขึ้นได้เช่นกันค่ะ
ผักทอดกรอบ
ผักทอดกรอบ หลายคนอาจจะคิดว่ามันต้องมีน้ำมันเยอะ และทำให้อ้วนอย่างแน่นอน แต่ที่จริงแล้วแค่เพียงเปลี่ยนจากน้ำมันชนิดอื่น ๆ เป็นน้ำมันมะกอกที่ดีต่อสุขภาพกับเกลือเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เป็นของว่างที่ดีต่อสุขภาพได้ค่ะ เพราะมีการศึกษาล่าสุดพบว่าการรับประทานน้ำมันมะกอกทุกวันจะช่วยสร้างเสริมฮอร์โมนความสุขอย่างฮอร์โมนเซโรโทนินได้มากกว่าไขมันชนิดอื่น แถมผักชนิดต่าง ๆ ก็ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างเช่น แครอท และคะน้า ที่มีสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ซึ่งมีการศึกษาจากคณะสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า สารแคโรทีนอยด์มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้คนเราเกิดความพึงพอใจอีกด้วย
น้ำผลไม้
วิตามินซีที่สูงจากน้ำผลไม้สามารถช่วยให้อารมณ์ดีได้ เพราะวิตามินซีนั้นเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังช่วยสร้างเสริมฮอร์โมนอารมณ์ดีอย่างเซโรโทนิน นอกจากนี้กล้วยปั่นก็สามารถช่วยได้เช่นกันนะ เพราะเจ้ากล้วยหอมนี่ล่ะมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งจะไปช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลงได้ค่ะ
ถั่วและเมล็ดพืช
อาหารจำพวกถั่วและเมล็ดพืช อย่างถั่วพิสตาชิโอ อัลมอนด์ วอลนัท และเมล็ดฟักทอง เป็นอาหารในกลุ่มที่มีไฟเบอร์สูง และมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ช่วยทำให้ความดันโลหิตลดลง โดยมีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทานถั่วพิสตาชิโอจะมีความวิตกกังวลลดลง ในการทำแบบทดสอบคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ ไขมันโอเมก้า 3 ที่อยู่ในถั่ววอลนัทยังช่วยลดอาการซึมเศร้า และเซเลเนียม (Selenium) ในถั่วอัลมอนด์ก็ยังช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนในเมล็ดฟักทอง ก็ยังมีสารทริปโตเฟน (Tryptophan) ที่ไปทำให้สมองสร้างฮอร์โมนเซโรโทนินอีกด้วย แต่ก็ควรรับประทานอย่างพอเหมาะ เพราะถั่วและเมล็ดพืขนี้ก็มีแคลอรี่เยอะใช่ย่อยนะคะ
มันเทศ
ถ้าคุณชอบกินมันฝรั่งมาก ๆ แต่ก็อยากจะเลี่ยงมัน มาลองรับประทานมันเทศดูสิคะ เพราะนอกจากมันจะมีรสหวานและอร่อยแล้ว ยังมีสารอาหารอยู่เพียบเลยล่ะ โดยเฉพาะแคโรทีนอยด์ ที่ช่วยลดความเครียดได้อย่างดี แถมเจ้ามันเทศก็ยังมีคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ ที่เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวนเลยล่ะค่ะ
โยเกิร์ตกับเบอร์รี
โยเกิร์ตเป็นของว่างที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและโปรตีน ซึ่งจำเป็นต่อการหลั่งของสารสื่อประสาทที่ช่วยทำให้รู้สึกดี ที่สำคัญยังไม่ทำให้อ้วนด้วยล่ะ และถ้าหากคุณอยากจะให้อร่อยและอารมณ์ดีมากขึ้นไปอีกก็ลองรับประทานคู่กับลูกเบอร์รีสดซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีที่ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันอยู่เพียบเลยล่ะ ยิ่งทานยิ่งได้ประโยชน์นะเออ
ชาเขียว
การศึกษาในปี 2011 พบว่าสารแอล-ธีอะนีน (L-Theanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่อยู่ในชาเขียว จะช่วยทำให้ระดับความดันโลหิตลดลง แถมระดับคาเฟอีนที่อยู่ในชาเขียวก็ยังช่วยทำให้คุณใจเย็นลงได้ด้วยล่ะ แต่ก็ควรจะรับประทานชาเขียวที่ชงจากใบอบแห้งดีกว่า เพราะการรับประทานจากชาเขียวสำเร็จรูปบรรจุขวดดูจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไร แถมยังมีระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวนพ่วงท้ายมาอีกด้วย
ความเครียด ไม่ใช่แค่เพียงอาหารเท่านั้นที่ช่วยได้ การหากิจกรรมอย่างอื่นที่มีประโยชน์อย่างเช่น ออกกำลังกาย หรือหางานอดิเรกทำก็ช่วยได้เช่นกัน รวมทั้งการมองโลกในแง่ดี ก็สามารถทำให้ความเครียดที่สะสมอยู่คลายลงได้ แต่ก็ไม่ควรจะไปดื่มแอลกอฮอล์หรือพึ่งสารเสพติดนะคะ เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้หายเครียดแล้วยังทำร้ายสุขภาพอีกด้วย เอาล่ะค่ะ จบแล้ว ใครที่กำลังเครียดอยู่ก็ลองไปหาอาหารที่ดีต่อสุขภาพรับประทานกันแก้เครียดดีกว่านะคะ ไปกันเลย !
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต