Tuesday, September 2, 2014

4 หลุมพรางที่ทำให้สาวทำงานหมดแรง




         ตื่นเช้ามาก็ดื่มกาแฟให้ตาเปิด บ่ายสามวิ่งหาขนมหวานๆ เพื่อไม่ให้หลับ กลับบ้านก็คว้าถุงมันฝรั่งนั่งโจ้หน้าทีวี ถ้าสนุกกับงานมาก แต่ตลอดเวลามีอาการแบบนี้จะเรียกว่ายังดีอยู่ไหม เราเลยไปหาคำตอบและทางแก้มาฝาก

          หลุมพราง # 1 ยามเช้าที่มาถึงช้า

          อาการที่เข้าขั้น : ชงกาแฟให้ตัวเองอย่างน้อยสี่แก้วตั้งแต่ยังไม่เที่ยงดีหรือบางวันก็สลับเป็นกาแฟสอง ไดเอตโค้กอีกสอง รู้สึกตาและประสาทลุกโพลนตลอดเวลา มีแรงแบบเครียดๆ อย่างบอกไม่ถูก รู้สึกไฮเปอร์จนออกจะเหนื่อยบางครั้งพอไปเช็คความดันถึงได้รู้ว่าพุ่งปรี๊ดเสียแล้ว

          แก้ด้วยการ : ลดกาเฟอีนและเปลี่ยนเป็นดื่มน้ำเปล่าแทน แต่อย่าหักดิบในทันทีทันใดควรค่อยๆ เริ่มทีละน้อยด้วยการลดจำนวนแก้วที่ต้องดื่มลงทีละสัปดาห์ จนร่างกายปรับตัวได้เพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหัว จนในที่สุดแล้วจะสามารถอยู่ได้ดื่มกาแฟเพียงวันละแก้วก็พอ และรู้สึกว่านอนหลับได้สนิทดีขึ้นในตอนกลางคืน

          หลุมพราง # 2 บ่ายทีไรง่วงทุกที พอบ่ายก็ต้องมีขนมกรุบกรอบไว้แก้ง่วง

          อาการที่เข้าขั้น : ชีวิตนี้เริ่มต้นและจบลงด้วยแป้งเท่านั้น กินขนมปังตอนเช้า กลางวันพุ่งเข้าหาร้านฟาสต์ฟู้ด พอบ่ายก็ต้องมีคุกกี้ มันฝรั่ง หรือไม่ก็เบเกอรี่ติดโต๊ะทำงานไว้จะได้รู้สึกสดชื่นตาสว่างขึ้น (แบบชั่วคราว) ทุกครั้งเพราะน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น แต่พอทุกอย่างย่อยสลายก็หมดแรงอยากจะล้มตัวลงนอนท่าเดียว

          แก้ด้วยการ : ลดแป้งและกินโปรตีนให้มากขึ้นในแต่ละมื้อ เพื่อสร้างพลังงานแบบไม่ทำร้ายร่างกาย และระดับน้ำตาลในเลือดจะคงที่มากขึ้น เช้าๆ ควรเปลี่ยนมากินโยเกิร์ต ไข่เจียว (ไข่ดาวก็ได้) และผลไม้ กลางวันกิน สลัดทูน่า สลัดไก่ หรือเกาเหลา มื้อเย็นให้กินปลากับผัดผัก ช่วงบ่ายๆ ให้ผลไม้แทน

          หลุมพราง # 3 กลับบ้านแล้วสลบคาทีวี

          อาการที่เข้าขั้น : ทิ้งตัวลงบนโซฟาได้ปุ๊บมือก็กดรีโมตทีวีปั๊บ ไม่ได้สิ เดี๋ยวตกข่าว ดูๆ ไปมีแต่ข่าวเครียดๆ จากทุกมุมโลก ยิ่งดูก็ยิ่งเครียดตาม จบข่าวแล้วไปหาอะไรมากินไปพลางเปลี่ยนช่องไปพลาง นั่งแช่ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็หลับไปพร้อมรีโมตในมือ

          แก้ด้วยการ : สมองซึ่งรับรู้ข่าวสารที่เครียดมากๆ เช่น ข่าวอาชญากรรมหรือภัยพิบัติต่างๆ มักเครียดตามไปด้วย ซ้ำร้ายการนั่งแช่อยู่หน้าจอทีวีนานๆ จะทำให้รู้สึกเหมือนถูกดูดพลังงานออกไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นดูรายการที่อยากดูจบแล้วก็ควรปิดสวิตช์แล้วไปออกกำลังกายเรียกเหงื่อแทน หรืออาบน้ำให้สดชื่น คุยกับสมาชิกในครอบครัว หรือเตรียมสิ่งที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้นแทนและเข้านอนไวๆ จะได้ตื่นเช้าขึ้นและไม่รู้สึกเพลียระหว่างวัน

          หลุมพราง # 4นอนไม่เคยพอ

          อาการที่เข้าขั้น : อยากให้วันหนึ่งมี 48 ชั่วโมงเพราะงานยุ่งเหลือเกิน กว่าจะได้กินข้าวเย็นก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม เข้านอนตีสามเป็นประจำ แปดโมงเช้าก็ต้องรีบลุกขึ้นแต่งตัวขนาดพยายามเข้านอนให้เร็วขึ้นแล้ว ตาก็ยังไม่ยอมหลับจนกว่านาฬิกาจะบอกเวลาตีสามอีกครั้ง

          แก้ด้วยอาการ : ตั้งนาฬิกาชีวิตของตัวเองเสียใหม่ ลองตื่นให้เช้ากว่าเคยแล้วออกไปเดินตากแดดอ่อนๆ สัก 20 นาทีเพื่อให้ร่างกายได้รับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างเวลากลางวันและกลางคืน เวลานอนต้องดับไฟให้มืดสนิท กินอาหารเย็นให้เร็วขึ้นและเบาลง อาจจะเป็นสลัดหรือเกาเหลาร้อนๆ สักชาม ถ้าหิวก็ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ก่อนนอน

แหล่งที่มา  marie Claire, http://health.kapook.com/view2927.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment