Friday, May 30, 2014

วิธีสังเกตเมื่อคนรักออกห่าง เพราะพฤติกรรมของคุณ




            เราต่างก็ไม่สามารถจะรักษาภาพลักษณ์ให้เป็นคนเดียวกันได้ตลอดเวลา และมันก็เป็นเรื่องยากกับการทำตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าแฟน คนรัก หรือสามี แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ ยกเว้นว่ามันจะเป็นพฤติกรรมแย่ ๆ ที่คุณทำซ้ำ ๆ จนทำให้เขารู้สึกเบื่อ จนเริ่มจะตีตัวออกห่าง และเมื่อมันเกิดขึ้น ซึ่งน้อยคนนักที่จะยอมพูดตรง ๆ ถึงตอนนี้ก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะต้องสังเกตด้วยตัวเองจากพฤติกรรมของเขา ต่อไปนี้

1. เขาดูไม่กระตือรือร้นในการใช้เวลาร่วมกับคุณแบบสองต่อสอง

           ไม่ว่าพวกคุณจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม หากเขาไม่สามารถใช้เวลาอยู่กับคุณได้นาน ๆ และดูเหมือนว่าอยากจะออกไปจากสถานที่ตรงนั้นเสียเหลือเกิน หรือมีท่าทีว่าจะปฏิเสธอยู่เสมอ เมื่อคุณชวนเขาไปเที่ยวที่ไหนที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนาน ๆ การแสดงออกเช่นนี้ของเขาอาจหมายความว่า เขารู้สึกอึดอัดอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เวลาร่วมกับคุณ เพราะคุณอาจจะทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกว่าไม่อยากอยู่ใกล้ หรือเป็นการผลักไสให้เขาออกห่างจากคุณ

2. เขาหยุดรับฟังสิ่งที่คุณต้องการจะพูด

           หากไม่ได้หมายความว่าเป็นเรื่องที่เขาไม่รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ ก็อาจจะสื่อให้เห็นว่า เขารู้สึกเบื่อในเวลาที่คุณกำลังพูดถึงเรื่องเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา และหากคุณยังคงไม่หยุดถึงเรื่องดังกล่าว แล้วนำเรื่องนั้นไปเล่าให้คนรอบข้างฟังหลายต่อหลายรอบ การกระทำของคุณจะไม่ได้ทำให้เขาหายไปเท่านั้น แต่มันอาจจะทำให้คนฟังคนอื่นค่อย ๆ หายไปด้วย อีกทั้งอยากจะบอกให้คุณรู้เอาไว้ว่า ที่เขาทำเช่นนี้ก็เพราะต้องการเวลาส่วนตัว หรือไม่อยากอยู่ใกล้คุณในบางครั้งนั่นเอง

3. เขาเริ่มบ่นถึงพฤติกรรมของคุณกับคนรอบข้าง

           ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลังเขาก็ทำแบบนี้ตลอด และพฤติกรรมของที่เขาบ่นถึงส่วนใหญ่ หรือพูดว่าคุณทำให้เขาเสียความรู้สึกอย่างไรบ้างนั้น คุณก็ควรรู้เอาไว้ด้วยว่า มันเป็นพฤติกรรมที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ และเป็นการผลักไสให้เขาตีตัวออกไปจากคุณ ส่วนสาเหตุที่เขาไม่พูดกับคุณตรง ๆ ก็เพราะเขาไม่สบายใจที่จะพูดทุกอย่างกับคุณ หรือเคยบอกเคยเตือนแล้วแต่คุณก็ไม่เคยฟัง

4. เขาใช้เวลากับเพื่อนมากขึ้น และเริ่มมองผู้หญิงคนอื่น

           บางครั้งมันอาจจะหมายถึงการขาดการสื่อสารที่ดีระหว่างคุณกับคนรัก ก็เลยทำให้เขาหันไปใช้เวลากับเพื่อนเสียส่วนใหญ่ และเริ่มจีบผู้หญิงคนอื่นบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อทำให้คุณรู้สึกหึงหวงและหันกลับมาสนใจเขาเหมือนเดิม แต่ในขณะเดียวกันหากไม่ได้เป็นอย่างที่กล่าวมา พฤติกรรมดังกล่าวของเขาก็หมายความว่า เขาพร้อมจะเดินไปจากชีวิตคุณแล้ว

           ถ้าเขาไม่ยอมบอกว่าอะไรในตัวคุณทำให้เขารู้สึกเบื่อ และคุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าที่เขาจากไป มันเป็นเพราะคุณไปทำพฤติกรรมแย่ ๆ ใส่เขาจนทำให้เขาทนไม่ได้ ก็ถึงเวลาแล้วที่ควรจะหันหน้ามาพูดคุยกัน และคุณก็ควรฟังสิ่งที่เขาพูดให้มากขึ้น พร้อมกับเปลี่ยนตัวเองเสียใหม่ จะได้มีรักที่มีความสุขและอยู่ด้วยกันไปนาน ๆ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Thursday, May 29, 2014

ไม่พูดว่ารัก ไม่ได้หมายความว่าไม่รัก




         "พูดไม่เก่ง" ไม่ได้หมายความว่า "พูดไม่ได้" ดังนั้น การสงวนถ้อยคำนั่นคงมีเหตุผลที่อยู่ในใจ อาจเป็นเหตุผลส่วนตัว หรือเพราะว่าเขามีบางอย่างที่เป็นทางออกที่ดีกว่า จริงอยู่ถ้อยคำหวานหู ใคร ๆ ก็นิยมชมชอบ แต่มันเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องมีความสามารถนักก็ทำได้นี่

          ดังนั้น ถ้าเขาเลือกที่จะเป็น "นักทำ" มากกว่า "นักพูด" จะไม่ดีกว่าหรือ อะไรจะสัมผัสได้มากกว่า อาจจะตอบยากนิด แต่ถ้าสัมผัสกับเนื้อในของมันจริง ๆ แล้ว ตอบแบบไม่ โกง หัวใจตัวเอง ก็จะรู้ว่าสัมผัสไหน ที่จะยืนยันความสัมพันธ์ได้ ยาวนาน กว่ากัน

          
เพศชาย หยาบ อาจจริงอยู่
         
 เพศชาย ไม่ละเอียดอ่อน อาจจริงอยู่

          แต่ที่เอ่ยปากฝากคำหวานคำไม่เก่ง ไม่ได้เกิดจากหัวใจของเขาแห้งแล้งเสียหน่อย อาจเป็นเพราะธรรมชาติ ที่มอบสัญชาติญาณความเป็นผู้ชายมาให้มากไปหน่อย การเอ่ยอะไรที่ดูจะลื่นหูแบบนี้สักที มันก็เลยดูจะยากเย็นเสียเหลือเกิน หรืออาจเป็นเพราะหน้าที่การงาน หรือหมวกที่เขาสวมอยู่ ทำให้ถ้อยคำที่ใครสักคนอยากฟังให้ชื่นหู โอกาสที่จะเล็ดลอดผ่านไรฟัน แทบเหมือนถูกปิดประตูลงกลอน มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดจากความต่าง และความหลากหลายมาผสมปนเปกัน ดังนั้น จะให้คนหนึ่งทำเหมือนกับอีกคน... คงเป็นไปไม่ได้

          ลายมือยังไม่มีใครเหมือนใคร ดังนั้น บรรทัดฐานใด ๆ คงจะยกขึ้นมาวัดเรื่องนี้ไม่ได้ ยิ่งเรื่องสำคัญต่อความรู้สึกแบบนี้ย่อม สไตล์ใครสไตล์มัน นักมวยยังมีหมัดเด็ด แต่คงต้องรอโอกาสให้เหมาะสักหน่อย เจ้าตัวถึงจะเลือกปล่อยหมัดสำคัญนั้น จำนวนยกก็มีกำหนด เขาไม่ปล่อยให้โอกาสผ่านไป จนระฆังยกสุดท้ายตีเสียก่อนหรอก เพียงแค่รอให้มั่นใจสักนิด ว่าหมัดสำคัญที่สุดนี้ปล่อยออกไปแล้วจะเข้าจุดโฟกัสที่สุด

          นักมวยที่อ่อนประสบการณ์ มักนิยมใช้หมัดนี้อย่างสะเปะสะปะ สุดท้ายแล้วตัวเขาก็จะรู้เองว่า การขว้างหมัดอย่างไม่มีจุดหมายนั้น นอกจากเสียแรงแล้ว ยังเหนื่อยเปล่าอีกด้วย เพราะถ้าหากการเอ่ยคำหวานหูคำนี้บ่อย ๆ แล้วเข้าท่า มันคงไม่ต้องมีสัญลักษณ์แทนหัวใจ อย่างของขวัญในวันสำคัญ ของฝากจากแดนไกลยามต้องห่างไกลกัน หรือกระทั่งแหวนวงสวยในนิ้วนางข้างซ้าย ในวันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต หากคำ ๆ นั้นมี อานุภาพ พอ

          ทุกอย่าง ล้วนวัดด้วย "การกระทำ" มากกว่า "คำพูด" ต่างหาก เราคงเคยเห็นตัวอย่างการแสดงความรักในหลาย ๆ รูปแบบ ที่ไม่ต้องพึ่งพาประโยคใด ๆ ออกจากริมฝีปากเลยมาบ้างไม่มากก็น้อย

          ภาพคุณลุงจูงมือคุณป้า เข้าไปกินไอติมในร้านเล็ก ๆ น่ารักสักแห่ง คำพูดใด ๆ อาจไม่มีหลุดออกมาจากปากของสองผู้เฒ่าเลยก็ได้ ไม่ใช่เพราะพะวงกับของเย็นสีสวยตรงหน้า แต่หากคงไม่คำพูดใด ที่มีความหมายเท่ากับความผูกพันที่ร่วมสะสมกันมายาวนานต่างหาก

         
 เพียงสายตาที่เข้าใจกันและกัน
         
 เพียงเสียงช้อนกระทบแก้วไอติมขณะตัก
         
 ก็คง น่าฟัง กว่าคำว่ารักครั้งไหนๆ ที่เคยพร่ำบอกกัน

          คน "ไม่พูดคำรัก" ไม่ได้หมายความว่า "รักไม่เป็น" คนพูดคำรักไม่เก่งก็ไม่ได้หมายความว่าตุ่มความรักทำงานผิดปกติ ถ้าการประมูลหมายถึงการให้ราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าให้เลือกระหว่าง การทำดี ต่อคนที่รักมากขึ้นเรื่อย ๆ กับการพูดคำว่ารัก ที่ถี่ขึ้นเรื่อย ๆ

 
ผู้หญิงอยากจะได้แบบไหน ?

          ท้ายสุด... ถ้าไม่เข้มแข็งกับต้นรักที่ช่วยกันปลูกมา คำหวานที่ว่าแน่แค่ไหนก็ไม่อาจช่วยอะไรได้ การหมั่นให้อาหารปลาก็เพราะอยากเห็นมันเติบโตและงดงาม สักวันหางปลาที่แกว่งไกว ครีบที่ว่ายแหวกสายน้ำ การพลิกตัวไปมาของมันทดแทนความสุขได้ดี แม้มันจะไม่เคยส่งเสียงมาให้ได้ยินสักครั้ง แต่เราก็เลือกที่จะให้อาหารมันต่อไป เพื่อที่จะเฝ้าดูมันเติบโตยิ่งขึ้นและงดงามมากขึ้น

ไม่พูดว่า รัก ไม่ได้หมายความว่า ไม่รัก

          ดังนั้น คงไม่ผิดถ้าหากฉันจะไม่เหมือนคนอื่นเขา โดยการเลือกทำตามอย่างที่คิดอยู่เหมือนเดิม ด้วยการชูนิ้วมือขึ้นมา และหุบนิ้วกลางกับนิ้วนางลงไปแล้วยื่นให้เธอ เพราะมันก็ความหมายเดียวกับที่เธอรอคอยอยู่ไงคนดี


แหล่งที่มา  อักขระบันเทิง, http://wedding.kapook.com/view30194.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Wednesday, May 28, 2014

7 รูปแบบความรักที่คุณอาจเคยเจอมาแล้วในชีวิตจริง



 
         เชื่อว่าทุกคนก็คงเคยเจอกับเรื่อง รัก ๆ ใคร่ ๆ กันบ้างแหละสักครั้งในชีวิต แต่คุณเคยรู้บ้างหรือเปล่าว่า ความรักไม่ได้มีความรักแบบหนุ่มสาวเท่านั้นนะ เพราะยังมีรูปแบบความรักที่หลากหลายอยู่บนโลกใบนี้ หากยังไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เพราะในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับความรัก 7 รูปแบบ ด้วยตัวคุณเอง แล้วมาดูกันนะคะว่าคุณเคยเจอความรักแบบไหนกันมาบ้าง

          
 1. รักไม่สมหวัง

           แม้รักที่ไม่สมหวังจะมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่ทรมานเกินคำบรรยาย และใครจะเข้าใจความรู้สึกได้ แต่ในความเจ็บปวดนั้นมันก็มีด้านดีอยู่ไม่น้อย เพราะคนส่วนใหญ่ที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ก็จะมีหัวใจที่แข็งแกร่งมากขึ้น และมีเหตุมีผลกว่าที่เคยเป็น อีกทั้งยังมาพร้อมกับความสามารถในการควบคุมอารมณ์ สติ และการกระทำได้มากขึ้นด้วย โดยอาจจะต้องแลกมาด้วยความอดทนสักนิด แต่ผลลัพธ์มันคุ้มค่าอย่างแน่นอน

         
2. รักบริสุทธิ์

           ส่วนความรักประเภทนี้จะไม่มีเรื่องเซ็กส์หรือแรงดึงดูดเข้ามาใจเกี่ยวข้อง และเป็นเรื่องของใจล้วน ๆ โดยส่วนมากความรักแบบนี้มักจะปรากฏในความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวหรือเพื่อน ที่ก่อเกิดจากการทำงานร่วมกัน ทำให้เกิดความใกล้ชิด แล้วค่อยแปรเปลี่ยนเป็นความรักกับคนที่เป็นแรงบันดาลใจ และผลักดันให้คุณได้พบเจอกับสิ่งที่ดีงาม

         
3. รักตัวเอง

           คุณเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่น่าสนใจบ้างหรือไม่ ? หากคำตอบ คือ ไม่ ก็แสดงว่าคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับการเห็นคุณค่าในตัวเองแล้วล่ะ และถึงเวลาแล้วที่คุณควรเผชิญหน้ากับความจริง โดยเริ่มจากรักตัวเองให้ได้ก่อน ๆ ที่จะไปรักคนอื่น หากคุณไม่สามารถทำได้ ก็ลิสต์ข้อดี ข้อเสีย และนิสัยทั้งหมดของตัวเองออกมา แล้วจะรู้ว่าคุณก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย ที่สำคัญอย่ากลัวที่จะกลายเป็นคนในอุดมคติของตัวเอง เพราะการในจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่จะนำพาคุณไปสู่การถูกรักโดยใครสักคนบนโลกใบนี้

         
4. รักปรารถนา

           สำหรับความรักประเภทนี้หากจะอธิบายให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ก็คงต้องให้คุณจินตนาการตามไปว่า คุณกำลังตกหลุมรักหนุ่มหล่อที่คุณเจอทุกวันระหว่างเดินทางไปทำงาน และคุณไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่าการปรารถนาจะได้สัมผัสหรือแตะต้องตัวเขา พร้อมกับมโนขึ้นมาในความคิดว่า เขากับคุณทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตัวเขาทั้งสิ้น หรืออาจจะรู้แต่ก็ไม่มากพอ และคุณก็ไม่คิดจะสนใจในจุดนี้ด้วย นี่แหละ คือ รักปรารถนาที่เราพูดถึง

         
5. รักจากใจจริง

           คุณอาจจะเคยพบเห็นรักแบบนี้ในนิยาย ภาพยนตร์ หรือละครหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งความรักแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อคน 2 คน สูญเสียการควบคุมความรู้สึกและอารมณ์ จนทำให้ทั้ง 2 อย่างแปรปรวนไปหมด และหากมีโอกาสได้คบหากัน ก็จะอาจจะกลายเป็นรักแท้ได้ หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจให้แก่กัน คบกันด้วยความสุข และมีจิตวิญญาณที่ผูกพันกันแบบลึกซึ้ง

         
6. รักในวัยเด็ก

           เชื่อว่าทุกคนคงเคยผ่านความรักในวันเด็กหรือ Puppy Love มาแล้วอย่างแน่นอน แต่ก็อาจเป็นรักที่ไม่ยืนยาวนักและหากจะมีก็คงน้อยมาก เพราะถึงแม้จะเป็นรักที่อยู่ในช่วงวัยหัวใจบริสุทธิ์ แต่ก็ยังอินโนเซ้นท์เกินไปที่จะรู้ได้ว่าความรักแบบหนุ่มสาวมันเป็นอย่างไร นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ Puppy Love เรียกความรักระหว่างคุณกับสัตว์เลี้ยงได้อีกด้วย
         
         
7. รักข้างเดียว

           นอกจากนี้ เชื่อว่าหลายคนก็น่าจะเคยประสบกับความรักประเภทนี้อย่างแน่นอน เพราะรักข้างเดียวสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการหลงใหลชื่นชอบเซเลบริตี้คนดัง หรือศิลปินที่มีชื่อเสียงก็ตาม ที่สำคัญคุณก็รู้ดีว่ามันมีทางจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงได้ แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ยังจินตนาการถึงอีกฝ่ายต่อไป โดยไม่สามารถหยุดความคิดไม่ให้คิดถึงอีกฝ่ายได้

           ไม่ว่าในชีวิตของแต่ละคนจะเคยเจอกับความรักประเภทไหนหรือรูปแบบใดมา จะสมหวังหรือผิดหวังก็ตาม ความรักก็ยังคงเป็นสิ่งสวยงามอยู่เสมอ และควรรักษามันไว้หากคุณเจอกับคนที่เขารักคุณอยู่เหมือนกัน

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Tuesday, May 27, 2014

6 นิสัยร้าย ๆ ของสาวที่ส่อแววว่าอาจจะขึ้นคาน




         หลายครั้งที่คนส่วนใหญ่มักโทษโชคชะตา เมื่อความรักไม่เป็นอย่างที่คาดหวังเอาไว้ ทั้งที่จริงแล้วทุกอย่างต่างก็เกิดขึ้น โดยมีเหตุผลในตัวมันเอง และที่ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องความรักเหมือนอย่างใครเขา ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากตัวคุณเอง โดยเฉพาะคนที่มีนิสัยอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 6 นิสัยต่อไปนี้ หากรู้แล้วยังไม่ยอมเปลี่ยนล่ะก็ เตรียมขึ้นคานกันได้เลย

1. โลกต้องหมุนรอบตัวเอง

           เหตุผลที่ทำให้ความรักของหลายคนไม่เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ ก็คือ การที่คุณคิดว่าโลกต้องหมุนรอบตัวเองเสมอ หรือพูดง่าย ๆ ว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามความคิดของคุณ ไม่อย่างนั้นคุณก็จะเหวี่ยง จะวีน หรือโทษว่าเป็นความผิดของสิ่งที่อยู่รอบตัว หลังจากนี้หากคุณอยากจะสมหวังในความรักเหมือนคนอื่นเขาบ้างก็ควรจะเรียนรู้ พร้อมกับยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง และยอมรับความคิดคนอื่นมาพิจารณาดูบ้าง

2. ขี้หึงเกินไป

           เมื่อมีคนรักก็ต้องหึงหวงกันบ้างเป็นธรรมดา และเชื่อว่าทุกคนก็เข้าใจ เพราะของใครใครก็รัก แต่ทั้งนี้ควรอยู่ในกรอบของความพอดี รู้จักแยกแยะบ้างว่าใครที่ควรหึงหรือไม่ควรหึง ไม่ใช่หึงหวงจนไร้สติไร้เหตุผล เอะอะโวยวายไปทั่ว แม้พวกเขาจะเป็นแค่เพื่อนกันก็ตาม และด้วยเหตุนี้เองก็เลยทำให้อีกฝ่ายอึดอัด ขาดความเชื่อใจ ความรักมันก็เลยพังไม่เป็นท่าอย่างที่เห็น

3. เห็นแก่ตัว

           ทุกอย่างมันควรจะมีจุดสมดุลในตัวเอง อย่างเช่น ถ้าหากคุณเป็นฝ่ายรับ ก็ควรจะเป็นฝ่ายให้กลับไปบ้าง ไม่ควรเห็นแก่ตัวโดยทำหน้าที่เป็นฝ่ายรับแต่เพียงผู้เดียว โดยถึงแม้อีกฝ่ายจะรักคุณมาก แต่ความเห็นแก่ตัวของคุณ ก็อาจทำให้อีกฝ่ายหมดรักได้ง่าย ๆ อีกทั้งจากนี้อาจไม่ใช่แค่เรื่องความรักเท่านั้นที่จะพัง เพราะหากยังเป็นคนเห็นแก่ตัวต่อไป เพื่อน ๆ ก็อาจจะหายไปจากชีวิตคุณด้วยก็ได้

4. ไม่รู้ใจตัวเอง

           การรู้ใจตัวเองก็เป็นเรื่องอย่างหนึ่งที่สำคัญ หากคุณอยากสมหวังในเรื่องความรัก เพราะหากคุณไม่เคยรู้เลยว่า คนแบบไหนที่คุณอยากจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตความรักของคุณก็จะดำเนินไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดหมาย คล้ายกับคบไว้แก้เหงา หากมีคนใหม่ที่ดีกว่าก็พร้อมจะจากไป ฉะนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นคบหาหรือรักใครก็ควรจะรู้ใจตัวเองให้ดีเสียก่อน จึงจะนำพาไปสู่รักที่สมหวังได้

5. เก็บอดีตไว้มากเกินไป

           ความรักในอดีตก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยที่ทำให้คุณไม่สมหวัง หรือประสบความสำเร็จในเรื่องความรักอย่างใครเขา โดยเฉพาะคนที่คิดว่าประสบการณ์ในอดีตจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณอีกครั้ง แม้จะคบกับคนใหม่แล้วก็ตาม ดังนั้น หากคุณไม่อยากให้ความรักผิดแผนอีก ก็ควรให้อดีตเป็นเพียงอดีต และเริ่มต้นใหม่กับคนใหม่ด้วยหัวใจดวงใหม่

6. ลืมคนเก่าไม่ได้

           ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้คุณลืมคนเก่าไม่ได้ เหตุผลเหล่านั้นก็จะเป็นอุปสรรคที่คอยขัดขวางความสุขระหว่างคุณกับคนรักคนใหม่ตลอดไป เพราะมันเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณไม่เคยรักคนใหม่ อีกทั้งอาจทำให้อีกคนรู้สึกว่ารักครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องเล่น ๆ ที่คุณไม่คิดจริงจัง ซึ่งเมื่อเจอแบบนี้ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องถอยทั้งนั้น คงจะดีกว่าหากคุณลองให้โอกาสและเปิดใจกับคนใหม่ที่เข้ามาอย่างเต็มที่

           ถึงแม้หลาย ๆ ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับความรักจะบอกให้คุณรักษาความเป็นตัวเองเอาไว้ แต่ทั้งนี้หากมีอะไรที่มันส่งผลเสียกับความรักของคุณ อย่างเช่น 6 นิสัยร้าย ๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้ ก็ควรจะพิจารณาตัวเองเสียใหม่ และรีบแก้ไขโดยด่วน ถ้าไม่อยากจะอยู่ตัวคนเดียวไปตลอดชีวิต หรือกลายเป็นสาวบนคานโดยไม่รู้ตัว

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต