Monday, June 2, 2014

ทำอย่างไรไม่ให้ระยะทาง เป็นอุปสรรคต่อความรัก


         มีใครเชื่อคำนี้บ้างไหม ที่เขาว่า "รักแท้แพ้ระยะทาง" ถ้าเกิดหวานใจของเราไม่ได้อยู่ใกล้กัน บางคู่อาจอยู่คนละจังหวัด ซ้ำร้ายบางคู่อยู่กันคนละจุดบนแผนที่ด้วยซ้ำ จะมีวิธีบำรุงรักษารักที่มีระยะทางกั้นกลางอย่างไร ให้หวานชื่นได้ไม่แพ้คู่ที่เขาได้อยู่ชิดใกล้กัน ลองมาดูคำแนะนำพวกนี้ดีกว่า

 1. กำหนดเวลาที่จะได้พูดคุยจ๊ะจ๋ากัน

          คู่รักระยะไกลหลายคู่กำหนดช่วงเวลาแน่นอนที่จะได้โทรหากัน ถึงแม้ว่าการพูดคุยที่ปล่อยให้เกิดขึ้นเองจะดูลื่นไหล และเป็นธรรมชาติมากกว่า แต่การกำหนดเวลาที่จะได้พูดคุยกันแน่นอนนับเป็นเรื่องสำคัญมาก สำหรับคู่รักที่อยู่ห่างไกลกัน โดยเฉพาะที่อยู่กันคนละเขตเวลา หรือไทม์โซน เพื่อที่แต่ละคนจะได้จัดสรรเวลา ปลีกตัวจากธุระอื่น ๆ เพื่อมารอจิ๊จ๊ะกับคนรัก ได้ตามช่วงเวลาที่ร่วมกันกำหนดไว้ไงจ๊ะ

 2. มีเวลามาหากันบ้าง

          บางครั้งคู่รักก็ต้องพาตัว และหัวใจมาอยู่ใกล้ ๆ กันบ้างเมื่อโอกาสอำนวย อาจสลับกันไปเยี่ยมเยียนให้ถึงถิ่นของแต่ละฝ่าย หรือว่าจะพบกันคนละครึ่งทาง กำหนดจุดนัดพบที่เป็นกึ่งกลางระหว่างสองสถานที่ของคุณ หากอยู่คนละจังหวัด อาจนัดมาเจอะเจอกันสักเดือนละครั้ง หรือหากอยู่กันคนละประเทศ ก็ลองหาช่วงเวลา และสถานที่ที่เหมาะสมกับทั้งสองฝ่ายดูนะ

3. ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์

          เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยีตั้งมากมาย ที่ดึงคนที่อยู่กันคนละมุมโลกให้มาอยู่ใกล้กัน ไม่ว่าจะเป็นอินแสต๊นท์เมจเสจเจอร์ หรือการแชททั้งหลาย ที่มีให้เลือกใช้บริการกันหลายค่าย ไม่ว่าจะเป็น msn, yahoo หรือว่า google หรือจะใช้วีดิโอคอลอย่างเช่น Skype สำหรับพูดคุยเห็นหน้าให้หายคิดถึง แถมเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีแข่งขันกันสูงจะตาย เดี๋ยวเดียวก็มีเวอร์ชั่นใหม่ที่ดีกว่าเดิมออกมาให้ใช้กันอยู่เรื่อย ทั้งดี ทั้งฟรี ก็ใช้ประโยชน์ซะให้เต็มที่แล้วกัน

 4. คว้าทุกโอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกัน

          สำหรับทุกคู่รัก ทุกเวลา ทุกนาที ที่ได้ใช้ร่วมกันมีค่าเสมอ แม้ยามปกติจะอยู่ห่างไกล แต่เมื่อไรที่สามารถโคจรมาอยู่ใกล้กันได้ ก็อย่าทิ้งโอกาสนั้นไปล่ะ บางคู่รักออกเดทแอบกระทันหันที่สนามบิน ในเมื่อฝ่ายชายเดินทางไปสนามบินได้สะดวก บังเอิญเหมาะเจาะกับสาวเจ้าที่เดินทาง แล้วต้องเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินนั้นพอดี หลายคนคงมองช่วงเวลานี้ เป็นการรอคอยที่น่าเบื่อ แต่คงไมใช่สำหรับคู่นี้แน่นอน เมื่อเขาทั้งสองเปลี่ยนช่วงเวลานี้ เป็นเวลาแห่งความรักแสนหวาน หรือจะลองเดทกันแบบไม่เห็นหน้าเห็นตาแต่อยู่ในสถานที่คล้าย ๆ กันก็ได้นะ สมมุติว่าไปกินไอศครีมที่ร้านเดียวกัน เวลาเดียวกัน แต่อยู่คนละเมือง ละเลียดไอสครีมไปก็ลองโทรคุยกับอีกฝ่ายดูซิว่า รสชาติที่เขาหรือเธอกินอยู่นั้นหวานจับใจเหมือนของทางนี้หรือเปล่า ถ้าไม่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ ลองสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ก็จะได้ช่วงเวลาสวีทหวานไม่แพ้คู่รักอื่น ๆ เลย

5. อย่าปล่อยให้เรื่องผิดใจคาราคาซัง

          ลิ้นกับฟันย่อมกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา สำหรับคู่รักที่ได้อยู่ใกล้กัน อาจไม่ใช่เรื่องยากในการปรับความเข้าใจ แค่ส่งสายตาอ้อน ๆ ให้อีกฝ่ายเห็นความจริงใจในแววตา ยิ้มหวาน ๆ กระซิบว่าขอโทษเบา ๆ แค่นี้อีกฝ่ายก็โผเข้ากอดแทบไม่ทัน แต่สำหรับคู่รักระยะไกล หากผิดใจกันเมื่อไหร่ การทำความเข้าใจอาจต้องใช้ความพยายามมากกว่าคู่อื่น ๆ ขึ้นอีกหลายเท่า เพราะคุณไม่สามารถสื่อสารทางภาษากายให้อีกฝ่ายรู้ได้เลย ว่าคุณอยากขอโทษ หรือรู้สึกเสียใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากเพียงใด ทางที่ดีคือพยายามปรับความเข้าใจกันให้เร็ว และควบคุมอารมณ์ให้ดีที่สุด ใจเย็น ๆ แล้ว ค่อย ๆ อธิบายว่าเหตุใดถึงได้อารมณ์เสียเช่นนั้น หากเห็นท่าทางว่าจะอารมณ์รุนแรงทั้งคู่ คุณสามารถตัดบทสนทนาได้ แล้วค่อยโทรคุยอีกครั้ง แต่ห้ามวางหูไปเฉย ๆ เด็ดขาด ความรักจะสะบั้นเอาได้ง่าย ๆ

 6. วางแผนอนาคต

          ข้อนี้ไม่ได้พูดให้วางแผนไปไกลขนาดต้องแต่งงานกัน แต่เป็นการวางแผนร่วมกัน ว่าจะใช้ชีวิตคู่รักระยะไกลในรูปแบบใด ช่วงเวลาทีผ่านมา สิ่งไหนที่ทำแล้วดี หรือไม่ดี อะไรที่อยากให้ปรับปรุงแก้ไข สำหรับคู่ที่ได้เจอกันอยู่บ่อย ๆ คงมีเวลาคุยกันถึงเรื่องพวกนี้อย่างเหลือเฟือ แต่สำหรับใครที่ตัวอยู่ไกลกัน คงต้องพูดคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง ในเมื่อตัวอยู่ไกล แต่ไม่อยากจะปล่อยให้ใจต้องเคว้งคว้าง ก็ต้องคุยกันว่าอยากให้ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปอย่างไรด้วยนะจ๊ะ

           เห็นหรือยังคะ ว่าระยะทางไม่ใช่อุปสรรคของความรักเสียหน่อย หมั่นบำรุงรักษารักที่มีให้ดี อย่าได้คิดน้อยใจไปว่าคนรักอยู่ห่างแสนไกล ความจริงแล้วมันดีแค่ไหนต่างหากที่คุณสองคนต่างหากันจนเจอ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment